Now Reading
ฟิน ฟิน แบบหมดใจ ในยุค 2000 กับซีรีย์วาย ซีรีย์ที่ใครๆอาจจะสงสัย ว่ามันฟินตรงไหนนะ!

ฟิน ฟิน แบบหมดใจ ในยุค 2000 กับซีรีย์วาย ซีรีย์ที่ใครๆอาจจะสงสัย ว่ามันฟินตรงไหนนะ!

ในวันนี้ขณะที่หลายๆคนกำลังหมกมุ่นกับการเสพข่าวโควิด ดูตัวเลขผู้ติดเชื้อ เศรษฐกิจที่กำลังจะล้มครืน หรือ หลายๆคนกำลังเครียดกับการหาทางเพื่อหาเงินมาจ่ายบิลที่เรียงรายอยู่บนโต๊ะ หรืออีกหลายๆ คนกำลังปล่อย ชีวิต ให้ไหลอย่างมองไม่เห็นอุโมงปลายทางแห่งแสงสว่าง ว่าเราทุกคนจะได้เจอกันเมื่อไร แต่ในความเคร่งเครียด วุ่นวายของโลกและกรุงเทพฯในวินาทีนี้ เราขอเสนอมุมเล็กๆที่ส่งพลังมากมายให้เราได้เสพย์ โดยมันเริ่มมาจาก ความว่าง ว่างเมื่อไรไถเฟสบุ๊คเอย อินสตาแกรมเอย จนได้มาเจอ #คั่นกู #เพราะเราคู่กัน ซีรีย์วายเรื่องดังจากฟีด ที่เด้งขึ้นมา

และจากนาทีนั้น จนถึงตอนนี้ ใช่ค่ะ ดิฉันได้กลายเป็นหนึ่งในทีมเมียศาลาวัด ยังยังไม่หยุด เราจะไม่หยุดฟิน แค่คนเดียว ถึงขนาดส่งไฮไลท์ของเรื่องนี้ ให้ใครต่อใครได้ดู แต่คุณจะได้ฟินแบบดิฉัน สิ่งแรกที่คุณต้องทำ คือ การเปิดใจค่ะ มองข้ามเรื่องราวของเพศสภาพ ยอมรับว่า ความรักคือ ความรักที่สามารถจะเกิดขึ้นกับใครก็ได้ ถ้าเพียงแต่เรามีความพอดีที่ดีพอกับคนนั้น และนี่คือเหตุผลที่เราอยากอธิบาย เพื่อให้คุณได้ลองตัดสินใจอีกครั้ง ว่าควรจะฟินจิกหมอนไปพร้อมๆกับคู่ขวัญ สารวัตรและไทน์ หรือยัง

  1. ย้อนไปสักสิบปี ในวันที่คุณไม่ต้องรับผิดชอบใดๆ นอกจากการเรียน ที่เราทุกคนมองว่าเป็นเรื่อง หนักหนา และน่าเบื่อ ดังนั้นความสุขส่วนใหญ่ในช่วงเวลานั้น คือการออกนอกกรอบบ้าง การได้รัก ได้หลงรัก และได้หาใครสักคนมารัก  สำหรับมนุษย์ในยุค 90 อย่างดิฉัน เรายังสนุกกับการส่งข้อความ หวานๆ ผ่านเพจเจอร์ ส่งจดหมายรัก หรือโทรศัพท์ไปขอเพลงดีเจ ซึ่งเด็กสมัยนี้คงงง แต่ในยุคนั้นคือมี ไม่กี่สิ่งที่เราจะสามารถสื่อสารถึงกัน  จำได้แม่นว่า เวลานั้นมันทั้งลุ้น ทั้งสนุก และจุ๊กจิ๊กหัวใจไม่น้อย เหมือนที่หลายๆ คนบอกว่าเวลาเรามีความรักเราจะรู้สึกเหมือนมีผีเสื้อนับร้อยบินอยู่ในใจฉลาดที่จะ สร้างแผนร้อยแปดพันเก้า จัดฉากสารพัดกับเพื่อนๆ  เพื่อทำให้หนุ่มคนนั้นหันมามองเราบ้าง

และ #คั่นกู  โดยสองละครตัวเอก สารวัตรและไทน์ ก็ได้ลาก ให้เราได้กลับไปนึกถึงความสุข ความสนุก ในช่วงเวลานั้น ความสุข ความหวานแบบบริสุทธิ์ ที่ได้รักและอยากรัก โดยไม่ต้องมีเหตุผลใดๆ รู้อย่าง เดียวว่าสุขใจจังที่ได้รักใครสักคน มันช่างแตกต่างกับความรักในวันที่ที่เราเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ที่ความรัก มักจะมาพร้อมเหตุผล และความสมควรอีกหลายๆอย่าง ใช่คะ มันเป็น ความรักที่มาพร้อมความรับผิด ชอบของเราก่อนที่เราจะเติบโตเพื่อสร้างครอบครัวอันเป็นสเต็ปที่เราเริ่มมองหาเหตุผลมากกว่าจิตใจ

ดังนั้น เมื่อเราถูก สารวัตร ( ไบร์ท วชิรวิชญ์  ชีวอารี) และไทน์ ( วิน เมธวิน โอภาสเอี่ยมขจร )  ชายหนุ่ม ทั้งสองพาเรากลับสู่อตีด ให้ได้เขิล ให้ได้หัวเราะและแอบอมยิ้มไปกับสารวัตร ชายหนุ่มผู้เก็บความรู้สึก แต่ชัดเจนกับหัวใจตัวเองที่สุด ในขณะที่ไทน์ ก็กลายเป็นหนุ่มสดใส พลังเยอะ โดนหยอดครั้งแล้ว ครั้งเล่า แต่นางก็ยังไม่รู้เรื่องเลยค่ะท่านผู้ชม ในขณะที่ดิฉัน เขินแทนไปหนักมากกกกแล้ว

ซีนสปอย

  • เพราะความพอดีที่ดีพอ จนกลายเป็นความรักใสๆของเด็กวัยรุ่น 2 คน ที่มีทั้งมุมสุข มุมทุกข์ ความใส่ใจ เข้าใจ ของคนสองคน จนทำให้เราลืมคำว่า ความรักเท่ากับผู้หญิงคู่กับผู้ชาย สารวัตร และไทน์ ทำให้เรา ได้เรียนรู้ว่าความรักเกิดได้กับคนทุกเพศ ขอเพียงแค่เราเป็นความพอดี ของกันและกัน หลายๆซีน   รู้สึกว่าความรักช่างเป็นพลังที่ดีในการก้าวต่อ หรือ เป็นที่พักพิงในวันที่เรา ขาดแคลนพลัง

สารวัตรและไทน์จึงเป็นอีกหนึ่งความสุข ความหวานที่ส่งพลังให้ในหลากหลายมิติ ผ่านการแสดง ที่พอดีของไบร์ท และวิน รวมถึงการกำกับแต่ละฉากที่มันไม่มากไม่น้อย จนทำให้เราไม่รู้สึกแปลก กับความรักของสราวัตรและไทน์ จนสุดท้ายก็ทำให้เรารู้ว่าถ้าใช่ สุดท้ายความรักจะทลายกำแพง ทุกอย่างที่ล้อมรอบตัวเราไว้

ซีนสปอย

  • ความรักของสารวัตรและไทน์เป็นการบอกเล่าผ่านความสนุกในรั้วมหาวิทยาลัย ช่วงเวลาที่เราเชื่อว่า ทุกคนกำลังพีคและเต็มไปด้วยความทรงจำแห่งความสุข  สุขจากหัวใจที่ต้องการจะสุข สุขที่ได้รัก และสนุกท้าทายกับการวางแผนต่างๆ  หรือสุขที่ได้รู้สึกหยิ่งๆ เมื่อได้เป็นคนที่ถูกรัก สุขที่ได้สนุก เพราะนี่เป็นช่วงเวลาที่เราได้เปลี่ยนสถานะจากความเป็นเด็ก มาเผชิญโลกกว้าง  หลายบ้านๆ ได้รับ อิสระที่จะใช้ชีวิต หลายคนได้เจอะเจอเพื่อนต่างเพศ เป็นวันที่ตอนนั้นเรียกว่าพร้อมลุยในทุกๆเรื่อง พร้อมลุยกับการใช้ชีวิตได้สุดพลัง

แต่เมื่อเราโตขึ้นพร้อมๆกับความรับผิดชอบมันทำให้เราต้องซุกซ่อนความเป็นเด็ก ความสุขหลายๆ อย่างแอบซ่อนไว้ หรือกระทั่งบางครั้งที่อยากจะหลุดกับเพื่อนๆบ้างแต่เมื่อนึกถึงหน้าที่ ความรับผิดชอบ ของเราในวันนี้จึงได้แต่คิด และซุกมันกลับเ เมื่อได้ดู #คั่นกู จึงทำให้เราได้นึกถึง ความแผลงบางอย่าง ในวัยเด็ก ความบ้าระห่ำของเรากับเพื่อนๆ ความสนุกแบบไร้ขอบเขตที่ในวันนี้เรา คงไม่สามารถเพลิด เพลินได้อย่างนั้น

ฉากสปอย

และทั้งหมดคือ เหตุผลส่วนตัวที่เราได้มีความสุขกับการดูซีรีสเรื่องนี้ เพราะตัวละครได้พาเรา ย้อน กลับไปในช่วงเวลา ที่สนุกและมีความสุขโดยมีหัวใจเป็นผู้นำทางได้ทำอะไรที่ขาดเหตุผลบ้าง ไร้สาระบ้าง แต่มันก็คือความสุขของเราในช่วงเวลานั้น การดูซีรีย์ เรื่องนี้ จึงคล้ายๆการเปิดประตู แห่งโลกสีชมพูของเรา ให้ได้ย้อนกลับไปมองไปฟิน ไปเสพพลังแห่งความสุขในช่วงเวลานั้น เพื่อเติม พลังให้กับเรา โดยเฉพาะในเวลานี้ เวลาที่บ้านเมืองและเรื่องราวต่างๆในชีวิตมันดูช่างหนักหนา #คั่นกู จึงเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมเติมพลังแห่งความสุขให้หัวใจได้ชุ่มชื้น ก่อนจะกลับมาลุยในโลกของความ เป็นจริงอีกครั้ง แต่ความสุขแบบนี้จะเกิดขึ้นได้ ถ้าแค่….คุณเปิดใจ…..แล้วลองเสริ์ชหา “เพราะเราคู่กัน” ดูนะคะ

พราว เวชสิทธิ์
Latest posts by พราว เวชสิทธิ์ (see all)