“ครัวบรรเลง” เสน่ห์อาหารไทยกับรสมือที่ไม่มีใครเหมือน!
เราไม่ได้พูดเกินจริงเพราะหลายเมนูของ “ครัวบรรเลง 33” เป็นเมนูระดับซิกเนเจอร์ ที่เกิดจากสูตรลับฉบับชาววังและสูตรลับฉบับ ‘Family’s Recipe’ อันเกิดจากความตั้งใจของ คุณอัษฎาวุธ สาคริก เหลนของบรมครูหลวงประดิษฐไพเราะ (ศร ศิลปบรรเลง) คีตกวี (ดนตรีไทย) แห่งอัมพวา ท่านเป็นที่รู้จักอย่างฟูเฟื่องเลื่องชื่อในสมัยรัชกาลที่ ๕ และล่าสุดในภาพยนตร์เรื่อง “โหมโรง”
⠀⠀⠀⠀⠀⠀⠀
คุณอัษฎาวุธกับกลุ่มเพื่อนสนิทที่ก่อตั้งร้าน ต่างคนต่างมีเมนูเด็ดประจำบ้านจึงเกิดเป็นไอเดียที่นำมาผสมผสานเป็นเมนูหลากหลายของร้านที่มีเสน่ห์อย่างร้ายกาจ ชวนให้นึกถึงความเป็นบ้านพี่เรือนน้องของคนไทย บ้านไหนจัดงานมงคลเราก็ยกข้าวหม้อแกงหม้อไปร่วมสำรับ บวกกับความที่รสมือและเสน่ห์ปลายจวักของแต่ละบ้านไม่เหมือนกัน มันจึงเป็นความสุขของการได้กินอาหารที่หาไม่ได้ที่ไหนนอกจากร้านอาหารครัวบรรเลง
ครัวบรรเลงเป็นชื่อที่ได้แรงบันดาลใจจากอาจารย์บรรเลง (ศิลปบรรเลง) สาคริก ลูกสาวคนที่สองของหลวงประดิษฐไพเราะ ผู้รักการเข้าครัวพอ ๆ กับการเล่นดนตรี เปิดบ้านรับแขกครั้งแรกในปีพ.ศ.2551 บนถนนสามเสน และเปิดสาขาสองบนถนนสาทร ก่อนจะย้ายมาเปิดบ้านใหม่ในอาคาร AVORA31 (เข้าซอยสุขุมวิท 33 เลี้ยวซ้ายเกือบท้ายซอย อาคารจะอยู่ฝั่งซ้ายมือ) เน้นการตกแต่งเรียบง่ายและความโปร่งโล่งสบายตาของโถงกระจกกว้าง เผยให้เห็นภาพวิถีชีวิตของชาวสุขุมวิทบนถนนเล็ก ๆ ที่จอแจไปด้วยรถและผู้คน
บรรยากาศภายในร้านเต็มไปด้วยความสุขสงบ อบอุ่น และเป็นกันเอง มีอาหารรสชาติดีกับดนตรีแจ๊ซเป็นพลังงานบวกที่หลอมรวมสองวัฒนธรรมเข้าด้วยกันไว้อย่างไม่ขัดเขิน แผ่นเสียงและเครื่องดนตรีเป็นของตกแต่งที่เหมาะควรแก่การเป็นสายเลือดนักดนตรี ทั้งหมดเป็นแผ่นเสียงออริจินัลและบางแผ่นมีมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๕ มีกระทั่งแผ่นเสียงลำดับแรกที่เข้ามาในเมืองไทย แต่ถ้าพูดถึงเรื่องอาหารแล้วล่ะก็ FYI บอกเลยว่า ใครมาเยี่ยมบ้านครัวบรรเลงห้ามพลาดเมนูเหล่านี้ เพราะรสมือของแต่ละครัวช่างยั่วยวนประสาทรับรสเสียเหลือเกิน
ทุกเมนูของที่นี่เกิดจากความตั้งใจเดิมของคุณอัษฎาวุธและหุ้นส่วนทุกคนของร้านคือ “ทำกินที่บ้านอย่างไร ลูกค้าทุกคนก็ต้องได้อร่อยกับรสมือแบบเดียวกัน” พูดง่าย ๆ ก็คือเราจะได้อร่อยกับเสน่ห์ปลายจวักของชาววังและสูตรลับฉบับ Family’s Recipe ที่จัดจานได้เรียบง่าย แต่เต็มไปด้วยรายละเอียดและขั้นตอนการปรุงที่ซับซ้อนอย่าบอกใคร ส่วนดีกรีความอร่อยต้องให้คะแนนเต็มสิบไปเลย
แกงรัญจวนเนื้อ
คนรักเนื้อวัวเปื่อยนุ่มในเครื่องแกงรสจัดจ้านต้องไม่พลาด “แกงรัญจวน” เป็นอีกหนึ่งเมนูหารับประทาน (อร่อย ๆ แบบดั้งเดิม) ยาก ได้รับการบันทึกโดย “หม่อมหลวงเนื่อง นิลรัตน์” เป็นเมนูที่เกิดขึ้นในสมัยรัชกาลที่ ๕ จากห้องเครื่องวังสวนสุนันทา สมัยนั้นเจ้านายมักจะเสวยกันคนละนิดหน่อย อาหารที่เหลือเลยถูกทิ้งขว้างไปอย่างเสียของ หม่อมเจ้าหญิงแย้มเยื้อน สิงหรา (ท่านอาของหม่อมหลวงเนื่อง) จึงประยุกต์เอาผัดเนื้อวัวหอมหัวใหญ่ใส่ใบโหระพาที่เหลือ คัดเอาแต่เนื้อวัวชิ้นพอดีคำนำมาล้างให้สะอาดแล้วต้มลงในน้ำเดือด โขลกน้ำพริกกระปิใส่ลงไปให้รสเปรี้ยว เค็ม หวาน เคี่ยวจนเนื้อเปื่อยจนกลิ่นหอมฟุ้งกระจายไปทั่วห้องเครื่อง และรสชาติที่อร่อยล้ำรัญจวนใจ ส่วนแกงรัญจวนสูตรอาจารย์บรรเลงต้องใช้เนื้อน่องลายกับเนื้อร่องซี่โครงตุ๋นจนเปื่อยให้นุ่มละลายในปากอร่อยล้ำจนวางช้อนไม่ลง ความนุ่มของเนื้อเข้ากันได้ดีกับน้ำพริกกระปิโขลกใหม่ทุกถ้วย (195 บาท)
สตูลิ้นวัว
อีกหนึ่งเมนูสำหรับคนรักเนื้อวัว ซึ่งเป็นสูตรลับของครอบครัวหุ้นส่วนที่เขาคุ้นเคยมาตั้งแต่จำความ สตูลิ้นวัวของที่ร้านเป็นสไตล์คนจีนที่อาศัยอยู่ในเมืองไทย เข้มข้นด้วยน้ำสตูที่หอมเค็มกำลังอร่อย เข้ากันได้ดีกับความหวานของมันฝรั่งและแครอท นำไปเคี่ยวจนน้ำซึมเข้าไปในลิ้นวัวได้กลมกล่อมและนุ่มลิ้นอย่าบอกใคร ความพิเศษของที่ร้านครัวบรรเลงคือ การเสิร์ฟสตูลิ้นวัวคู่กับพริกน้ำปลา ให้รสชาติเผ็ดจัดจ้านเข้ากับลิ้นวัวที่เปื่อยนุ่มชนิดละลายในปากไม่ต้องลำบากเคี้ยวจนวางช้อนไม่ลง (200 บาท)
ไข่พะโล้ (โอชา)
ในฐานะคนรัก “ไข่พะโล้” บอกเลยว่า เมนูนี้เลอค่าน่ากลับมาซ้ำวันละหลาย ๆ มื้อ แม้จะเป็นการปรุงอาหารแบบชาวจีนโพ้นทะเล แต่ชาวสยามนำมาประยุกต์ให้อร่อยเป็นสไตล์ไทย ๆ โดยคำว่า “พะโล้” มาจากภาษาจีนฮกเกี้ยนว่า “ผะโล้ว” เป็นการนำเนื้อสัตว์มาเคี่ยวกับเครื่องเทศหลายชนิด ทั้งอบเชย กานพลู โป๊ยกั๊ก รากผักชี ฯลฯ ชาวจีนเชื่อว่า พะโล้ที่ดีต้องมี 5 รสชาติ ส่วนพะโล้ที่ร้านเป็นสูตรโบราณที่ยังคงความหอมของเครื่องเทศผัดกับน้ำตาลทรายแดง เกลือ ซีอิ๊ว (ไม่ใช้ผงพะโล้สำเร็จรูป) ให้รสหวานเค็มกำลังดี เคี่ยวกับหมูสามชั้นและไข่ต้มจนน้ำพะโล้ซึมเข้าเนื้อหมูนุ่มละมุน กินกับข้าวสวยร้อน ๆ ราดน้ำพะโล้เข้มข้นลงไป รับรองว่า เมนูนี้จะทำให้คุณหลงรักไข่พะโล้มากขึ้นอีก (150 บาท)
ไก่ทิวลิป
ขอให้ลืมไก่ทิวลิปที่คุณเคยชิมร้านไหน ๆ มาก่อน เพราะที่นี่เป็นสูตรออริจินัลเจ้าแรก ๆ ของเมืองไทย คิดค้นโดยหุ้นส่วนของร้านที่คัดเฉพาะปีกบนไก่สดใหม่เนื้ออวบแน่น หั่นให้เป็นลักษณะเฉพาะคือเมื่อทอดออกมาจะฟูกรอบเหมือนดอกทิวลิปผลิบาน หมักด้วยเครื่องปรุงสูตรลับของทางร้าน ชุบแป้งกับไข่คลุกเคล้าด้วยเกล็ดขนมปังทอดให้เหลืองทองกรอบนอกนุ่มใน เมื่อนำมาเรียงจัดจานหน้าตาคล้ายดอกทิวลิปทั้งสวยและกรอบอร่อย เข้าถึงความเป็นต้นตำรับฉบับไก่ทิวลิปสุด ๆ (120 บาท)
หมูเผ็ดคุณย่า
มาถึงที่ร้านแล้วห้ามพลาดเมนูนี้ด้วยประการทั้งปวง เพราะหมูเผ็ดสูตรลับฉบับคุณย่าโชติ (ภรรยาของหลวงประดิษฐ์ไพเราะ) เป็นจานเด็ดที่มัดใจทุกคนในบ้านมาหลายปี ก่อนจะเปิดโอกาสให้คนไทยได้ลิ้มลองความอร่อยและรสชาติจัดจ้าน ที่เกิดจากการนำหมูมาหมักเข้ากับซอสสูตรลับจนนุ่มละมุนแล้วปรุงรสให้ร้อนแรงด้วยพริกขี้หนู พริกไทอ่อน และกระเทียม หอมกลิ่นใบมะกรูด แล้วเพิ่มรสเค็มนิด ๆ ของตั้งฉ่าย เป็นเมนูที่ลองแล้วจะจินตนาการถึงเสน่ห์ปลายจวักของแม่ศรีเรือนไทยได้เลยล่ะ (150 บาท)
หมูกรอบคั่วพริกเกลือ
เมนูง่าย ๆ ที่เรามักจะคุ้นเคยในช่วงเทศกาลไหว้เจ้า แต่รับรองว่า หมูกรอบคั่วพริกเกลือของครัวบรรเลงอร่อยจัด จนเราต้องยกให้เป็นอีกหนึ่งเมนูในดวงใจที่ทุกคนบนโต๊ะอาหารเปิดโหวตให้คะแนน 10 10 10 ไปเลย เพราะเชฟจะนำหมูมารวนเข้ากับเกลือ พริกไท กระเทียม และรากผักชีโขลกละเอียดจนกรอบเค็มและให้รสเผ็ดกำลังดี หอมกลิ่นกระเทียมและรากผักชีฟุ้งกระจายในปาก กินกับข้าวสวยร้อน ๆ จานเดียว (อาจ) ไม่พอ (85 บาท)
BitterNSour
ปิดท้ายด้วยเมนูเครื่องดื่มแสนสดชื่นรื่นเย็น เข้ากับวันอากาศร้อนจัดและมื้ออาหารรสจัด ใกล้กับร้านครัวบรรเลงจะมีคาเฟ่สุดเท่ “Bitter N Sour” ซึ่งเป็นร้านในเครือ คุณสามารถสั่งเครื่องดื่มเย็นเปรี้ยวหอมซ่าอย่าง Sparkling Peach 🍑 Lemonade 🍋 มาดื่มกับมื้ออาหารแสนอร่อยได้เลย ส่วนคอกาแฟไม่อยากให้พลาดเอสเปรสโซ่ของที่ร้าน ดีงามทั้งเม็ดกาแฟคั่วหอมโดนใจและเอสเปรสโซ่บาร์ที่มีเสน่ห์อย่าบอกใคร
#ครัวบรรเลง เปิดให้บริการทุกวันยกเว้นวันจันทร์
📍หน้าอาคาร AVORA31 Residence ในซอยสุขุมวิท 33
⏰ ตั้งแต่เวลา 11.00-21.30 น.
☎️ (098) 881-6362
📣 https://www.facebook.com/kruabanleng33/
- รวมไอเดียแฟชั่นชุดกี่เพ้า ตรุษจีนปีนี้คุณต้องเก๋จัดกว่าใคร - January 20, 2020
- พัทยาพาฟิน! ขับรถไปเช็คอินเก๋ๆ ที่ร้าน ‘ไทยมาเช่’ กันดีกว่า - December 5, 2019
- นิทรรศการ Living Cemetery นิทรรศการเดี่ยวของปราง เวชชาชีวะ - August 30, 2019
สมัชชา เกิดมาในยุคภาพถ่ายขาวดำและกล้องฟิล์มผ่านการร่ำเรียนด้านการถ่ายภาพจาก.
คณะศิลปกรรมศาสตร์ สาขาทัศนศิลป์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เคยร่วมงานถ่ายภาพกับเอเจนซี่ชื่อดังก่อนจะไปใช้ชีวิตที่ลอส แอนเจลิส สหรัฐอเมริกา
สมัชชา เป็นช่างภาพมืออาชีพที่ได้รับการยอมรับว่าสามารถสร้างความมหัศจรรย์และมนต์เสน่ห์ให้แก่ภาพถ่ายทุกภาพได้อย่างน่าทึ่ง ทั้งในด้านการจัดวางองค์ประกอบ การให้แสง ตลอดจนการทำ Post Production เขามีปรัชญาการทำงานว่า “สร้างความแปลกใหม่ให้กับงานธรรมดาๆ แต่ต้องสามารถใช้งานได้จริง”
สมัชชา ยังคงถ่ายภาพอย่างต่อเนื่อง ใช้ชีวิตอันแสนจะวุ่นวายกับภรรยาและแมวอีก 40 ตัว
writer | นักเขียนสายมู ผู้หลงใหลศาสตร์การทำนาย บำบัด ศิลปะ กาแฟ ดนตรี ซีรีย์ และซอมบี้ เป็นชีวิตจิตใจ คลุกคลีอยู่ในแวดวงสื่อมวลชนมาเกือบ 20 ปี เคยเป็นผู้สื่อข่าวภาคสนาม นักเขียนประจำนิตยสารชื่อดัง และนักเขียนประจำเอเยนซี่โฆษณาเบอร์ต้นของเมืองไทย ก่อนที่คลื่นดิจิทัลจะพัดพาให้กลายเป็นนักเขียนอิสระที่มีลูก ๆ เป็นกระต่ายหูตกให้ดูแลถึง 9 ตัว