พัทยาพาฟิน! ขับรถไปเช็คอินเก๋ๆ ที่ร้าน ‘ไทยมาเช่’ กันดีกว่า
‘พัทยา’ ไม่มีเหงาเพราะเป็นเมืองที่มีสถานที่เช็คอินใหม่ๆ เกิดขึ้นเป็นว่าเล่น เช่นเดียวกับร้านอาหารแห่งใหม่ใจกลางพัทยาที่เปิดตัวไม่นานก็มีศิลปินชื่อดังจากต่างประเทศ แวะไปเช็คอินเก๋ๆ กันจน FYI ตาลุกวาว ว่าแล้วเราก็พุ่งตัวไปรีวิว ‘ไทยมาเช่’ ก่อนใคร ส่วนจะเด็ดจริงสมคำร่ำลือ หรือเป็นอาหารไทยรสชาติเอาใจต่างชาติ…มาค่ะ FYI ชวนไปตำกันเลย!
หากจะบอกว่า ‘ไทยมาเช่’ เป็นน้องใหม่ของเมืองพัทยาก็คงไม่ถูกซะทีเดียว เพราะร้านอาหารแห่งนี้เป็นธุรกิจล่าสุดของกลุ่มบริษัท PTS Group เจ้าของโรงแรมเครือ Woodland, ทิฟฟานีโชว์ และร้านขนมปังฝรั่งเศสชื่อดังอย่าง La Baguette และ La Freme ด้วยประสบการณ์กว่า 40 ปีในการบริหารธุรกิจ Hospitality ทำให้ ‘ไทยมาเช่’ กลายเป็นที่สนใจในกลุ่มนักท่องเที่ยวและนักลงทุนในพัทยา บวกกับโลเกชั่นที่สะดุดตาบริเวณทางเข้าโรงละครทิฟฟานี ที่บัดนี้ปรับรูปโฉมใหม่ให้หรูหราสง่างามด้วยงบลงทุนกว่า 500 ล้านบาท ทำให้ทิฟฟานีโชว์ยังคงยืดหยัดอย่างสง่างามสมกับเป็นแลนด์มาร์คตลอดกาลของเมืองพัทยา โดยเฉพาะยามค่ำคืนที่แสงไฟหลากสีบริเวณลานน้ำพุจะสวยงามตระการตา ชวนให้รู้สึกตื่นตาตื่นใจไม่แพ้มุมไหนในพัทยาเลยก็ว่าได้
ไทยมาเช่โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบ Art Nouveau Architecture ที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก Grand Cenatral Station ใจกลางกรุงปารีส นำมาดีไซน์เข้ากับอัตลักษณ์ของความเป็นไทยร่วมสมัยอย่างลวดลาย ‘จักสาน’ ที่ผูกพันกับวิถีชีวิตของคนไทยมาช้านาน ทั้งยังร่มรื่นสบายตาด้วยโถงกระจกสูงประดับตกแต่งด้วยต้นเฟิร์นสีเขียวสด ภายในร้านมีโซฟาให้เลือกชิลล์หลากสไตล์ พร้อมจัดแบ่งอาหารเป็นสเตชั่นต่างๆ ให้คุณเลือกสั่งได้อย่างสะดวกสบาย หรือจะนั่งชมเชฟปรุงอาหารก็เก๋ไปอีกแบบ
ภายในร้านแบ่งออกเป็น 2 โซนที่โดดเด่นอย่างมีสไตล์ ต้อนรับคุณด้วยโซนคาเฟ่ (Café) เปิดให้บริการมื้อบลันซ์ถึงเที่ยงคืน เน้นการออกแบบที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น ผ่อนคลาย ให้คุณอร่อยกับมื้ออาหารและชมจังหวะชีวิตของเมืองพัทยาในแบบส่วนตัว ส่วนบริเวณชั้นสองเป็นโซนมาเช่ (Marche) พร้อมเสิร์ฟดินเนอร์ในบรรยากาศโรแมนติก
ส่วนเมนูแนะนำของโซนคาเฟ่ที่มาแล้วไม่ควรพลาด ได้แก่ ข้าวเหนียวหมูปิ้ง, หมูสะเต๊ะ, ต้มข่าหอยเชลล์, ผัดไท, เนื้อออสเตรเลียทอดใบยี่หร่า ส่วนเมนูซิกเนเจอร์ต้องยกให้ ‘ขนมจีนน้ำพริกกุ้งสด’ ตำรับมรดกโลกโดย ‘เชฟแพร’ ปภาดา เอี่ยมธรรมโชติ ที่หากินได้แค่ที่ร้านไทยมาเช่เท่านั้น บอกเลยว่ารสชาติกลมกล่อมอย่าบอกใคร ไม่สั่งถือว่าพลาด และ ‘แกงมัสมั่น’ เสิร์ฟพร้อมครัวซองสไตล์ La Baguette มีให้เลือกทั้งมัสมั่นไก่และเนื้อ ‘ข้าวขาหมู’ สูตรพิเศษที่นำขาหมูต้มโค้กให้รสหวานนุ่มละมุนลิ้น เมนูนี้ดังมากในหมู่นักท่องเที่ยวจีนและเวียดนาม เพราะมีพลพรรคนักชิมหลายคนมาตำแล้วยกย่องให้เป็นเมนู recommended
คอกาแฟต้องไม่พลาเมนูซิกเนเจอร์อย่าง ‘กาแฟไทยมาเช่’ มิกซ์กาแฟอะราบิก้าเข้ากับน้ำมะพร้าวสดจากอัมพวา ทำให้กาแฟหวานกลมกล่อมกำลังดีเชียวล่ะ แต่หากชอบกลิ่นหอมหวานต้องไม่พลาด ‘กาแฟมะม่วงลาเต้’ ที่รสชาติหวานกลมกล่อมไม่เหมือนใคร แถมยังมีเครื่องดื่มและขนมหวานมากมายให้เพลิดเพลินตลอดวัน (สั่งขึ้นไปรับประทานบนโซนมาเช่ได้ด้วยนะ) อาทิ Siamese Soda, Chinese Plum Honey Soda, Thai Stimulus, Frivolous และ Lanna Scent
นอกจากจะรสชาติจัดจ้านแบบไทยแท้ ทุกสเตชั่นของไทยมาเช่ได้รับการออกแบบให้เป็น ‘ครัวเปิด’ หรือ Open Cooking เพื่อปลุกเร้าประสาทสัมผัสทั้ง 5 ให้ตื่นตาตื่นใจไปกับรูป รส กลิ่น เสียง และสัมผัส อีกทั้งครัวเปิดยังช่วยให้เราเห็นความพิถีพิถัน ความสดใหม่ของวัตถุดิบ ความสะอาด และความละเมียดละไมของเชฟได้อย่างถนัดถนี่ อาหารแต่ละเมนูถูกนำมาตีความใหม่ให้น่าสนใจ มีเอกลักษณ์ และสวยงามจนเรารู้สึกเหมือนเป็น ‘ศิลปะบนจานอาหาร’ มีการประยุกต์เอาสิ่งของที่คนไทยคุ้นเคยอย่าง ครกจิ๋ว ซึ้งนึ่งขนาดจิ๋ว กระจาดหาบจิ๋ว และชะลอม มานำเสนอเมนูอาหารให้มีสีสันไปอีกแบบ
ส่วนชั้นสองเป็นโซน ‘Marche’ เผยให้เห็นโดมกระจกสไตล์ Grand Central Station ที่โปร่งโล่งสบายตา และเต็มไปด้วยกลิ่นอายของความเป็นมาเช่หรือ ‘ตลาด’ ที่รวบรวมอาหารทะเลสดใหม่คัดไซส์จนเราต้องเอามือทาบอกด้วยความตื่นเต้น พร้อมเสิร์ฟอาหารทะเลสดๆ จากชาวประมงท้องถิ่น แว่วมาว่า เชฟจะบุกไปเลือกถึงท่าเรือตั้งแต่ตี 4 ของทุกวัน รวมถึงเนื้อวัวพรีเมียมจากภาคอีสานของไทย ที่คุณภาพพรีเมียมไม่แพ้เนื้อวัวขุนในต่างประเทศแล้วนะคะ
โซนนี้ครีเอทเมนูซิกเนเจอร์โดย เชฟชาลี กาเดอร์ ผู้อยู่เบื้องหลังความอร่อยของเมนูซิกเนเจอร์ในร้านอาหารชื่อดังมากมาย อาทิ 100 มหาเศรษฐ์ (เจริญกรุง) แบ่งเป็นสเตชั่นต่าง ๆ อาทิ Seafood, Somtum & Yum, Flame, Noodles Soup, Desserts, Juices & Liquors เมนูแนะนำ ได้แก่ ข้าวซอยปูทะเล, ปูเนื้อผัดผงกะหรี่, เส้นหมี่ปูผัดซอสเต้าเจี้ยว, กุ้งลายเสืออบซีเรียล, ทะเลรวมนึ่ง, หอยนางรมสด Fine de Claire จากฝรั่งเศส, ไก่เหลืองย่างสมุนไพร ฯลฯ บอกเลยว่า ไก่เหลืองสูตรต้นตำรับแท้เป็นเมนูที่หารับประทานยากในปัจจุบัน ซึ่งไทยมาเช่ทำออกมาได้ดีมากทีเดียว โดยเฉพาะเมื่อรับประทานคู่กับน้ำจิ้มแจ่วรสจัดจ้าน ส่วนความอลังการงานปูสดและกุ้งยักษ์ไม่ต้องพูดถึงค่ะ มันเลิศมาก!
นอกจากจะได้อิ่มอร่อยกับซีฟูดสดๆ และอาหารไทยรสจัดจ้าน ไฮไลต์สำคัญของโซนมาเช่อยู่ที่โชว์พิเศษจากทิฟฟานีโชว์ ที่ครีเอทขึ้นสำหรับลูกค้าของไทยมาเช่โดยเฉพาะในแบบ Close-up Entertainment เพื่อให้นักแสดงและผู้ชมมีส่วนร่วมในการครีเอทโชว์ในแต่ละค่ำคืนให้พิเศษไม่ซ้ำกัน พร้อมเปิดม่านการแสดงทุกคืนเวลา 20:30 น. เป็นโชว์ที่ไม่อยากให้คุณพลาดด้วยประการทั้งปวง เพราะให้ความรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปในคลับชั้นสูงยุคแกสบี้ที่ทั้งเก๋และสนุกอย่าบอกใคร บ่งบอกถึงความเป็นนางโชว์มืออาชีพของนักแสดงที่ทำให้คนทั้งมาเช่สนุกสนานไปด้วยกัน
ไทยมาเช่ เปิดให้บริการทุกวัน โซน Café ตั้งแต่เวลา 11:00-24:00 น. และโซน Marche เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 17:00-24:00 น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือสำรองที่นั่งได้ที่ โทร. (038) 410724-6 ติดตามความเคลื่อนไหวและโปรโมชั่นได้ที่ https://www.facebook.com/thaimarche/ ปักหมุดเช็คพิกัดได้เลยที่
- รวมไอเดียแฟชั่นชุดกี่เพ้า ตรุษจีนปีนี้คุณต้องเก๋จัดกว่าใคร - January 20, 2020
- พัทยาพาฟิน! ขับรถไปเช็คอินเก๋ๆ ที่ร้าน ‘ไทยมาเช่’ กันดีกว่า - December 5, 2019
- นิทรรศการ Living Cemetery นิทรรศการเดี่ยวของปราง เวชชาชีวะ - August 30, 2019
สมัชชา เกิดมาในยุคภาพถ่ายขาวดำและกล้องฟิล์มผ่านการร่ำเรียนด้านการถ่ายภาพจาก.
คณะศิลปกรรมศาสตร์ สาขาทัศนศิลป์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เคยร่วมงานถ่ายภาพกับเอเจนซี่ชื่อดังก่อนจะไปใช้ชีวิตที่ลอส แอนเจลิส สหรัฐอเมริกา
สมัชชา เป็นช่างภาพมืออาชีพที่ได้รับการยอมรับว่าสามารถสร้างความมหัศจรรย์และมนต์เสน่ห์ให้แก่ภาพถ่ายทุกภาพได้อย่างน่าทึ่ง ทั้งในด้านการจัดวางองค์ประกอบ การให้แสง ตลอดจนการทำ Post Production เขามีปรัชญาการทำงานว่า “สร้างความแปลกใหม่ให้กับงานธรรมดาๆ แต่ต้องสามารถใช้งานได้จริง”
สมัชชา ยังคงถ่ายภาพอย่างต่อเนื่อง ใช้ชีวิตอันแสนจะวุ่นวายกับภรรยาและแมวอีก 40 ตัว
writer | นักเขียนสายมู ผู้หลงใหลศาสตร์การทำนาย บำบัด ศิลปะ กาแฟ ดนตรี ซีรีย์ และซอมบี้ เป็นชีวิตจิตใจ คลุกคลีอยู่ในแวดวงสื่อมวลชนมาเกือบ 20 ปี เคยเป็นผู้สื่อข่าวภาคสนาม นักเขียนประจำนิตยสารชื่อดัง และนักเขียนประจำเอเยนซี่โฆษณาเบอร์ต้นของเมืองไทย ก่อนที่คลื่นดิจิทัลจะพัดพาให้กลายเป็นนักเขียนอิสระที่มีลูก ๆ เป็นกระต่ายหูตกให้ดูแลถึง 9 ตัว