Now Reading
แปลกแต่ดี! รวม “ความเชื่อเรื่องปีใหม่” จากหลายวัฒนธรรม ที่คนไทยก็ทำตามได้

แปลกแต่ดี! รวม “ความเชื่อเรื่องปีใหม่” จากหลายวัฒนธรรม ที่คนไทยก็ทำตามได้

ความเชื่อเรื่องวันขึ้นปีใหม่ของแต่ละประเทศต่างก็มีเสน่ห์ไม่แพ้กัน ช่วงเวลาแห่งการเริ่มต้นใหม่ การเฉลิมฉลอง และความหวัง ท่ามกลางเมืองที่ประดับประดาด้วยแสงไฟระยิบระยับและต้นคริสต์มาส บางคนสนุกกับการปาร์ตี้เคาท์ดาวน์ขึ้นปีใหม่กับเพื่อนสนิท คนรัก หรือครอบครัว บ้างก็ปลีกตัวไปสวดมนต์ข้ามปีที่วัด แต่เคยสงสัยไหมว่า ประเทศอื่น ๆ ทั่วโลกมีความเชื่อเรื่องปีใหม่กันอย่างไรบ้างนะ? เราชวนคุณมาสำรวจความเชื่อแปลก ๆ ต้อนรับวันขึ้นปีใหม่จากทั่วทุกมุมโลก บางความเชื่อก็ทำตามได้และน่าสนุกไม่เบาเลยทีเดียว เอาล่ะ! มาขอพรให้โชคดีต้อนรับปีใหม่ที่สดใสไปด้วยกันดีกว่า!

จุดประทัดไล่สิ่งชั่วร้าย: ความหมายซ่อนเร้นเบื้องหลังควันไฟ

ความเชื่อเรื่องปีใหม่

นอกจากพลุไฟสุดอลังการจะมอบแสงสีสวยงามตระการตาตัดกับท้องฟ้ายามค่ำคืน ที่ทำให้เรารู้สึกถึงการเริ่มต้นใหม่ที่น่าตื่นตาตื่นใจ (ซึ่งคงไม่ใช่สำหรับน้องหมาและน้องแมว) เราอาจจะสงสัยว่า ทำไมบางประเทศถึงนิยมจุดประทัด หรือดอกไม้ไฟกันนะ? ประเพณีนี้มีรากฐานมาจากความเชื่อที่ว่า เสียงดังของประทัดและแสงสว่างมีพลังขับไล่วิญญาณชั่วร้าย ภูติผีปีศาจ และสิ่งอัปมงคลทั้งหลายออกไปจากชีวิต นับเป็นการเริ่มต้นปีใหม่ด้วยความบริสุทธิ์และความโชคดี บางวัฒนธรรมยังเชื่อด้วยว่า ควันไฟที่พวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าเป็นสัญลักษณ์ของการนำพาคำอธิษฐานและความปรารถนาไปสู่สรวงสวรรค์ อย่างในประเทศจีนการจุดประทัดในช่วงปีใหม่ หรือวันตรุษจีนถือเป็นส่วนสำคัญของการเฉลิมฉลองเลยก็ว่าได้ เพราะเชื่อกันว่าเสียงประทัดจะขับไล่สิ่งไม่ดี และนำพาความเจริญรุ่งเรืองมาสู่ครอบครัวนั่นเอง

 กินองุ่น 12 ลูกตอนเที่ยงคืนข้ามปี: ธรรมเนียมแสนแปลกจากแดนกระทิงดุ!

ความเชื่อเก่าแก่ของชาวสเปนที่ว่า การกินองุ่น 12 ลูกตอนเที่ยงคืนวันส่งท้ายปีเก่าจะนำพาความโชคดีมาสู่ชีวิตคุณ ก็เป็นอะไรที่น่าสนใจและสามารถทำตามได้อย่างง่ายดาย ความเชื่อนี้มีที่มาจากชาวสเปน แคว้นอาลิกันเต (Alicante) ที่นิยมปลูกองุ่นและชาวสวนองุ่นริเริ่มประเพณีน่ารัก ๆ นี้ขึ้นมา เชื่อกันว่า องุ่น 12 ลูก เป็นตัวแทน 12 เดือนในหนึ่งปี แล้วองุ่นยังเป็นสัญลักษณ์ของความสุขและการเฉลิมฉลองอีกด้วย

นอกจากการกินองุ่นครบ 12 ลูกจะนำพาความโชคดีมาให้ตลอดปี แล้วองุ่นแต่ละลูกยังเปรียบเหมือนการขอพรให้แต่ละเดือนเต็มไปด้วยความสุขและความสำเร็จอีกด้วย ชาวสเปนยังมีกฎเล็ก ๆ ด้วยว่า ไม่ควรเคี้ยวองุ่นอยู่ในปากก่อนเสียงระฆังเที่ยงคืนจะสิ้นสุดลง เพราะคุณอาจจะไม่โชคดีทุกเดือนไงล่ะ พูดง่าย ๆ ก็คือ เสียงระฆังดังเมื่อไหร่ให้รีบเคี้ยวองุ่นทั้ง 12 ลูกกลืนลงท้อง เพื่อเป็นการเริ่มต้นปีใหม่ด้วยความรู้สึกที่ดีและมีความหวังมากขึ้น แต่ถ้าไม่มีระฆังก็ให้กินองุ่นให้ครบ 12 ลูกก็พอ

ความเชื่อเรื่องสีสันต้อนรับปีใหม่: ทำไมต้องใส่ชุดชั้นในสีแดงด้วยล่ะ?

นอกจากจะมีความเชื่อเรื่องกินองุ่น 12 ลูก ชาวสเปนยังเชื่อด้วยว่า หากสวมใส่ชุดชั้นในสีแดงในวันปีใหม่จะเสริมดวงความรักให้ปั๊วะปัง แล้วยังเรียกทรัพย์ให้มีเงินมีทองด้วยนะ ในหลายวัฒนธรรม ‘สีแดง’ ถือเป็นสีแห่งความโชคดี ความรัก และความเจริญรุ่งเรือง การสวมใส่ชุดชั้นในสีแดงในวันปีใหม่จึงเป็นเหมือนการเสริมสิริมงคล โชคลาภ และเพิ่มพลังบวกด้านความรัก ถึงเวลาปลุกความเซ็กซี่ในตัวคุณแล้วล่ะ! แต่ถ้ารักไม่ยุ่งมุ่งแต่ร่ำรวยแนะนำให้ใส่ “ชุดชั้นในสีเหลือง” เพื่อเสริมสิริมงคลในวันปีใหม่แทนก็ได้เช่นกัน

บางประเทศยังมีความเชื่อเรื่องสีสันที่น่าสนใจไม่แพ้กัน อย่างชาวบราซิลนิยมแต่งกายด้วยชุดสีขาวในวันปีใหม่ เพื่อสื่อถึงความสุขสงบในชีวิต ทั้งยังขับไล่ภูผิปีศาจและสิ่งอัปมงคลออกจากชีวิตอีกด้วย ส่วนชาวจีนเชื่อว่า การสวมใส่เสื้อผ้าสีแดงต้อนรับปีใหม่และตรุษจีนจะช่วยเสริมดวงให้เฮง ๆ ปัง ๆ และโชคดีตลอดปีนั่นเอง

** Tips: ใครที่อยากทำตามเคล็ดลับนี้ ถ้าคุณอยากโชคดี x2 ต้องสวมชุดชั้นในตัวใหม่ หรือชุดชั้นในที่ได้รับมาเป็นของขวัญ บางความเชื่อบอกว่า ให้สวมชุดชั้นในกลับด้านเพื่อความโชคดียิ่งขึ้น แต่ความเชื่อนี้อาจจะไม่มงคลเท่าไหร่สำหรับคนไทยก็ได้นะ เพราะการสวมเสื้อผ้ากลับด้านมักจะใส่ให้กับผู้ล่วงลับไงล่ะ  

กระโดดข้ามกระเป๋าเดินทาง: ธรรมเนียมสุดแปลกที่น่าลอง!

อย่าแปลกใจถ้าคุณจะเห็นคนกระโดดข้ามกระเป๋าเดินทางในวันปีใหม่ที่ประเทศในแถบละตินอเมริกา ธรรมเนียมสุดแปลกและน่าสนุกนี้เชื่อว่า การกระโดดข้ามกระเป๋าเดินทางในวันปีใหม่จะทำให้คุณได้เดินทางท่องเที่ยวตลอดทั้งปี ยิ่งกระโดดหลายครั้งก็จะได้เดินทางตามจำนวนนั้น เช่น กระโดดข้ามกระเป๋า 5 ครั้งก็จะได้เดินทาง 5 ครั้งในปีนั้น เรียกว่าเป็นความเชื่อแปลก ๆ ต้อนรับปีใหม่ที่ทั้งน่ารักและสร้างแรงบันดาลใจให้คนที่หลงใหลการเดินทาง แต่ไม่แนะนำสำหรับคนที่ข้อเข่าไม่อำนวยนะจ้ะ

แต่ถ้าคุณกระโดดไม่ไหว หรือกระเป๋าใบใหญ่เกินไป ลองทำตามความเชื่อของชาวคอสตาริกาดูได้นะ พวกเขาจะคว้ากระเป๋าเดินทางแล้ววิ่งไปรอบ ๆ บ้าน ระหว่างนั้นก็จินตนาการถึงการเดินทางท่องเที่ยวรอบโลกในปีหน้า ส่วนชาวเอกวาดอร์ที่ชื่นชอบการเดินทางจะวิ่งไปตามท้องถนน พร้อมกับกระเป๋าเดินทางที่ว่างเปล่าในคืนส่งท้ายปีเก่า เพื่อขอพรให้โชคลาภเดินทางมาสู่ตัวเรา แล้วยังได้เดินทางไปท่องเที่ยวยังสถานที่ต่าง ๆ ทั่วโลกอีกด้วย นอกจากนี้ คุณยังสามารถลากกระเป๋าเดินทางเปล่าเข้าออกทางประตูหน้าบ้าน 12 ครั้งก็ได้เช่นกัน ที่เหลือก็แค่ตั้งตารอคอยว่าจะได้ไปเที่ยวจริงหรือเปล่า? อ้อ! อย่าลืมนำกระเป๋าเดินทางใบนั้นไปด้วยนะ

กิน ‘โซบะข้ามปี’ ความเชื่อแสนอร่อยของชาวญี่ปุ่น

จะเป็นโซบะร้อน โซบะเย็น หรือโซบะราดแกงกะหรี่ก็ได้หมด ขอให้เป็นเมนู “โซบะ” ก็เพียงพอ เพราะชาวญี่ปุ่นเชื่อกันว่า การกิน “โทชิโคชิ โซบะ” (Toshikoshi Soba) หรือ “การกินโซบะข้ามปี” ในวันที่ 31 ธันวาคมของทุกปี ถือเป็นสัญลักษณ์ของชีวิตที่ยืนยาวและโชคดีตลอดปี โดยธรรมเนียมการกินโซบะข้ามปีเริ่มขึ้นในยุคเอโดะ (ค.ศ. 1603-1868) ชาวญี่ปุ่นต่างก็เชื่อกันว่า ในบรรดาอาหารตระกูลเส้นทั้งหลาย โซบะเป็นเส้นที่อ่อนนุ่มและขาดง่าย เปรียบเสมือนการตัดขาดจากโชคร้ายที่พบเจอมาตลอดปี นอกจากนี้ การกินโซบะยังเปรียบเสมือนการอวยพรตัวเองและครอบครัวให้มีสุขภาพแข็งแรง และอายุยืนยาวเหมือนเส้นโซบะ ชาวญี่ปุ่นนิยมกินโซบะเป็นมื้อค่ำในปริมาณพอดี ๆ โดยจะไม่เหลือทิ้งไว้ในชาม ไม่อย่างนั้นจะเหมือนส่งต่อโชคร้ายจากปีเก่าต่อเนื่องไปถึงปีใหม่ยังไงล่ะ

เรื่องควรรู้: ไม่ควรกินโซบะในช่วงเวลาข้ามปีพอดี เพราะชาวญี่ปุ่นเชื่อว่า เป็นการส่งต่อโชคร้ายและอาการเจ็บป่วยจากปีเก่าต่อเนื่องไปถึงปีใหม่นั่นเอง  

รหัสลับ 7-9-12: ประเพณีต้องลองของชาวเอสโทเนีย

หนึ่งในประเพณีเก่าแก่ของชาวเอสโทเนียเชื่อกันว่า การรับประทานอาหาร 7, 9 หรือ 12 มื้อในวันที่ 31 ธันวาคมของทุกปี จะนำมาซึ่งความเจริญรุ่งเรือง โชคลาภ และความโชคดี โดยชาวเมืองจะรับประทานอาหารมื้อเล็ก ๆ ให้ครบ 7,9 หรือ 12 มื้อ (ขึ้นอยู่กับความสะดวกและความจุของกระเพาะอาหาร) เนื่องจากตัวเลขเหล่านี้ถือเป็นเลขมงคลของชาวเอสโทเนีย เชื่อกันว่า หากรับประทานอาหารตามตัวเลขเหล่านี้จะทำให้คุณอิ่มท้องและมีกินมีใช้ตลอดปี บางคนเชื่อว่า การกินอาหาร 7 ครั้งในวันขึ้นปีใหม่จะทำให้คุณมีพละกำลังเท่ากับผู้ชาย 7 คนเลยทีเดียว! ซึ่งสาว ๆ อาจจะไม่จำเป็นต้องสตรองเบอร์นั้นก็ได้นะ ส่วนเมนูยอดฮิตก็ต้อง “ซาวเคราต์” (Sauerkraut) และ “ขนมมาร์ซิปัน” (Marzipan) แต่เราไม่แนะนำให้กินอาหารมื้อหนัก ๆ ตามตัวเลข 7,9 หรือ 12 มื้อในหนึ่งวัน ไม่อย่างนั้นคุณอาจจะอาหารไม่ย่อยและท้องอืดแทน

อยากให้โชคลาภไหลมาเทมา: จงโยนทับทิมผลนั้นซะ!

การโยนหรือทุบทับทิมลงบนพื้นในช่วงเทศกาลปีใหม่ ถือเป็นประเพณีเก่าแก่ในประเทศตุรเกีย (ตุรกี) และอาร์เมเนีย เชื่อกันว่า การโยนทับทิมลงบนพื้นจะนำโชคลาภมาให้ ยิ่งเมล็ดทับทิมกระจายเป็นวงกว้างมากเท่าไหร่ ปีใหม่ของคุณจะดีมากขึ้นเท่านั้น เพราะทับทิมถือเป็นผลไม้นำโชคในอาร์เมเนียและตุรกี ดังนั้น การโยนทับทิมลงบนพื้นในวันส่งท้ายปีเก่าจะนำมาซึ่งโชคลาภ อีกทั้งทับทิมยังเป็นสัญลักษณ์ของหัวใจคนเราเพราะขนาดและสีสันที่คล้ายคลึงกัน ทับทิมจึงเป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ สุขภาพ และชีวิตนั่นเอง แต่ความเชื่อของบางวัฒนธรรมการปาของกินลงพื้นก็ไม่ใช่เรื่องดีสักเท่าไหร่ นอกจากจะไม่เห็นคุณค่าของอาหาร และตอนเก็บกวาดยังน่าปวดหัวไม่น้อยเช่นกัน เพราะทับทิมเม็ดเยอะ!

โชคดีเพราะมีหอม: ลองแขวนหัวหอมไว้หน้าประตูบ้านดูสิ!

ชาวกรีกโบราณเชื่อว่า “หัวหอม” เป็นสัญลักษณ์ของการเกิดใหม่และความเจริญรุ่งเรือง จึงนิยมแขวนหัวหอมไว้ที่หน้าประตูบ้านในวันที่ 31 ธันวาคมของทุกปี เพื่อขอพรให้ทุกคนในครอบครัวมีความเจริญก้าวหน้าและโชคดีตลอดปี รวมถึงการอบ “วาซิโลพิตา” (Vasilopita) ในวันปีใหม่ ซึ่งเป็นขนมเค้กแบบดั้งเดิมของชาวกรีก วาซิโลพิต้าเป็นสัญลักษณ์ของความโชคดี ความเจริญรุ่งเรือง และความสามัคคีในครอบครัว จึงเป็นเมนูห้ามพลาดในช่วงเทศกาลสำคัญต่าง ๆ อย่างวันปีใหม่และวันนักบุญบาซิล (Saint Basil’s Day) ซึ่งตรงกับวันที่ 1 มกราคมของทุกปี ชาวกรีกยังเพิ่มทริคสนุก ๆ อย่างการซ่อนเหรียญไว้ในขนมวาซิโลพิต้า โดยมีหัวหน้าครอบครัว หรือผู้อาวุโสที่สุดในกลุ่มนั้นเป็นคนหั่นเค้กและแจกจ่ายให้แก่ผู้ร่วมงาน ซึ่งใครก็ตามที่พบเหรียญนี้จะมีโชคดีตลอดปีเลยล่ะ แต่ถ้าเคี้ยวไม่ดีก็อาจจะมีฟันร้าวได้เลย

สมหวังทันใจ: จุดไฟเผากระดาษ แล้วดื่มคำอธิษฐานของคุณซะ!

หลังจากหนึ่งปีแห่งความเหนื่อยล้าและการดิ้นรนต่อสู้อันดุเดือด ชาวรัสเซียจะเริ่มต้นปีใหม่ด้วยประเพณีเก่าแก่อย่างการเขียนคำอธิษฐานลงในกระดาษแผ่นเล็ก ๆ จากนั้นให้จุดไฟเผากระดาษแผ่นนั้น แล้วนำขี้เถ้าที่เต็มไปด้วยคำอธิษฐานเทลงในแก้วแชมเปญ ดื่มให้หมดแก้วในช่วงเที่ยงคืนวันข้ามปีเพื่อให้คำอธิษฐานเป็นจริง บางคนก็โยนเหรียญลงในแก้วแชมเปญเพื่อขอให้โชคดีมีโชคลาภ นอกจากนี้ ชาวรัสเซียยังให้ความสำคัญกับมื้อค่ำคืนส่งท้ายปีเก่าเป็นอย่างมาก พวกเขาจะเน้นอาหารที่มีรสชาติเข้มข้นและดีต่อสุขภาพ เช่น สลัดโอลิเวียร์ (Olivier salad) เนื้อเยลลี่ (Jellied meat) ปลาเฮริงดอง (Herring) และขนมปังดำ (Black bread) เหมือนเป็นการอวยพรต้นปีใหม่ให้มีความสุขและสุขภาพแข็งแรงนั่นเอง

แม้ความเชื่อเรื่องปีใหม่ของหลายประเทศทั่วโลกจะแตกต่างกันไป และคนไทยก็สามารถทำตามได้เป็นกิมมิคสนุก ๆ ในงานปาร์ตี้ แต่ก็สะท้อนให้เห็นถึงความหลากหลายทางวัฒนธรรม ประเพณีอันเก่าแก่ในแต่ละท้องถิ่น และสร้างแรงบันดาลใจในการเฉลิมฉลองปีใหม่ในแบบของตัวเองอีกด้วย  

กดติดตามเราได้ที่

website       :  www.fyibangkok.com

facebook     : https://www.facebook.com/fyibangkok

instagram    : https://www.instagram.com/fyibangkok

twitter         : https://twitter.com/fyibangkok

youtube       : https://www.youtube.com/channel/UChhOQmckv2fqgkXJZ-Q1nCA

ส่งข่าวประชาสัมพันธ์ถึงกองบรรณาธิการ : pr.fyibangkok@gmail.com 
โทรศัพท์ 096 449 9516

รัสรินทร์ สุนทรกมลรัศมิ์