Seven Spoons สวรรค์ของคนรักอาหารอร่อย
ความสนุกในการได้ลองเมนูใหม่ๆที่อร่อยถูกปากถือเป็นกิจกรรมที่สร้างความเพลิดเพลินให้เราได้เสมอ ไม่ว่าจะกับร้านอาหารใหม่เอี่ยมอ่อง หรือแม้แต่ร้านประจำที่ฝากท้องกันมานานอย่าง Seven Spoons ย้อนกลับไปในช่วงที่ร้านเพิ่งเปิดให้บริการเมื่อ 8 ปีก่อน และยังตั้งอยู่ในโลเกชั่นเดิมที่เยื้องจากร้านปัจจุบันไปคนละฝั่งถนน เรามีโอกาสได้แวะมาชิมอาหารที่ เชฟโจ๊ก- สมเกียรติ ไพโรจน์มหกิจ เชฟที่พ่วงตำแหน่งเจ้าของร้าน อธิบายว่าแต่ละเมนูนั้นได้แรงบันดาลใจมาจากกลิ่นอายของอาหารจากประเทศในแถบเมดิเตอร์เรเนียน อย่างสเปน อิตาลี โมร็อคโก ฯลฯ ก่อนมาผสมผสานกับรสชาติดั้งเดิมของอาหารยุโรป แล้วดัดแปลงให้กลมกล่อมถูกปากคนชิม
นอกจากรสชาติ วิธีการปรุงและการสร้างสรรค์เมนูที่ลงตัวจะเป็นจุดเด่นของอาหารในแต่ละเมนู ส่วนประกอบอย่างวัตถุดิบที่สดใหม่ยังเป็นตัวแปรสำคัญที่ชูให้รสชาติดียิ่งขึ้น ทางร้านบอกว่าโดยส่วนใหญ่แล้ววัตถุดิบที่เป็นผักและผลไม้ จะพยายามใช้ทุกอย่างที่เป็นออร์แกนิกส์ให้มากที่สุดจากฟาร์มในประเทศไม่ว่าจะเป็นเชียงราย ปากช่อง หรือเพชรบูรณ์ ตามที่โอกาสจะอำนวย ส่วนเนื้อสัตว์อย่างไก่และหมู ก็เลือกสรรจากที่เลี้ยงอิสระในธรรมชาติ
หลังจากเปิดมาได้เกือบสองปี Seven Spoons ก็ขยับขยายโดยย้ายมาอยู่ที่ตั้งปัจจุบัน ด้วยพื้นที่ซึ่งเพิ่มขึ้นทำให้เติมลูกเล่นในการตกแต่งร้านได้มากกว่า ไม่ลืมยืนพื้นบรรยากาศโดยรวมด้วยโทนสีไม้อบอุ่น เข้ากับผนังปูนเปลือย รวมถึงเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งสไตล์วินเทจ ให้ความรู้สึกนั่งสบายและเพลิดเพลินกับอาหารอร่อยได้อย่างเต็มที่
นับจากวันแรกที่ได้ชิมจวบจนปัจจุบัน สาเหตุหลักที่ทำให้ได้แวะเวียนกลับไปคือติดใจในรสชาติอาหาร ชอบความครีเอทของเมนู รักในบรรยากาศและบริการที่เป็นกันเองของร้าน แม้ทำเลจะไม่ได้ตั้งอยู่ในย่านกลางเมือง และบางครั้งการที่ร้านตั้งอยู่ริมถนนใหญ่ซึ่งจะจอดรถได้หลัง 18.30 น. จะทำให้รู้สึกว่าต้องมีความพยายามในการดั้นด้นไป แต่ความยากก็กลายเป็นความง่ายทันทีเมื่อนึกถึงเมนูที่อยากกิน
ว่าแล้วก็มาถึงพาร์ทสำคัญนั่นคือแนะนำเมนูอาหาร เริ่มตั้งแต่โซนเรียกน้ำย่อย และเมนูสลัด ทางร้านบอกว่าตัวท็อปที่ขายดีเสมอคือเมนูสลัดวีแกน Quinoa salad with mango, avocado and mushroom fritti (260 บาท) แต่ที่เราอยากแนะนำและชอบเป็นการส่วนตัวคือ Avocado, mango and rocket salad with grilled shrimp (320 บาท) ผักร็อกเกตสดกรอบเข้ากันได้ดีมากกับอโวคาโดที่สุกกำลังดี และเนื้อมะม่วงสุก น้ำสลัดที่ให้รสเปรี้ยวอมหวาน ตัดรสกันพอดีเป๊ะกับกุ้งย่างตัวอวบที่ให้มาแบบไม่หวง อีกเมนูที่กินเพลินไม่แพ้กันคือ Mango salsa shrimp soft taco (220 บาท) ทาโก้แผ่นบางที่ด้านในอัดแน่นด้วยคุณภาพ กุ้งและมะม่วงเข้ากันได้ดีกับซัลซ่ารสจัด เผ็ดซ่านิดๆแต่ให้ความสดชื่นชูใจ
ไล่กันมาที่เมนคอร์สที่ส่วนใหญ่เรามักสั่งเป็นจานกลางจะได้ชิมได้หลากหลาย หนึ่งในอาหารขึ้นชื่อที่ยังคงยึดพื้นที่ในเมนูอาหารตั้งแต่เริ่มต้นจวบจนปัจจุบัน คือ Gnocchi ตอนนี้เมนูที่เสิร์ฟคือ Gnocchi with gorgonzola sauce and lentil and spinach balls (280 บาท) จุดเด่นของเมนูนี้อยู่ที่เนื้อของ Gnocchi ซึ่งนุ่มหนึบกำลังดี (แอบไปถามเคล็ดลับมาว่าต้องย่างให้หอมเล็กน้อยก่อนนำมาปรุง) ส่วนซอสกอร์กอนโซล่านั้นชนะเลิศด้วยความครีมมี่ที่รสสัมผัสนุ่มนัว เพิ่มเท็กซ์เจอร์ให้เมนูด้วยบอลผักโขม ที่หน้าตาคล้ายกับมีทบอล แต่จริงๆแล้วรสชาติจะคล้ายกับฟาร์ราเฟล อาหารของเลบานอน ที่ทอดจนกรอบนอกนุ่มในแต่ไม่อมน้ำมัน หอมเครื่องเทศเบาๆชูรส
ด้วยความที่หลงรักเนื้อครีม เราจึงเสริมทัพด้วย Creamy mushroom risotto with single malt whiskey (340 บาท) เมนูนี้รสเบากว่าจานก่อนหน้าเล็กน้อย แต่เห็ดกับชีสช่วยเสริมให้กินเพลินได้ สำหรับใครที่ชอบพาสต้าในแบบรสชาติจัดจ้านหน่อย เมนูที่ขายดีได้แก่ Chorizo, black olive and fresh rocket linguine with ground macadamia (320 บาท) ความเผ็ดของโชริโซ่ช่วยตัดรสจากเมนูอื่นๆได้ดี แถมยังพ่วงไฮไลท์เล็กๆของจานที่เติมเท็กซ์เจอร์ของถั่วแมคคาดาเมียบดเข้ามา เพิ่มความมันนิดๆเจือปลายลิ้น
สำหรับของหวานนั้นเมนูจะเปลี่ยนไปตามฤดูกาล ล่าสุดเราได้ชิม Dark chocolate salted caramel tart ที่เข้มข้นด้วยเนื้อช็อคโกแลต แต่ตัดรสด้วยความเค็มและหวานมันของคาราเมล เติมความสดชื่นด้วยไอศกรีมวานิลลาลงตัว อีกเมนูคือ Eggless avocado mango cheesecake อโวคาโดจับมือกับมะม่วงแปลงร่างมาเป็นของหวานก็ได้เหมือนกัน แถมยังให้ความครีมมี่ตัดรสหวานแหลม เมื่อกินคู่กับชีสเค้กจะหอมกลิ่นใบเตยนิดๆ ได้อารมณ์เหมือนกินขนมไทยเบาๆ
สำหรับสายดริ้งก์มาร้านนี้ไม่ผิดหวัง ครบเครื่องทั้งค็อกเทลและม็อกเทลสูตรเฉพาะของร้าน มีสองเมนูที่เราชอบได้แก่ That’s Right! ม็อกเทลรสสดชื่นที่เป็นส่วนผสมของเบซิล เสาวรส น้ำสับปะรดและแทงเจอร์รีน
ส่วนค็อกเทล Asian Memoirs แค่จิบแรกกลิ่นหอมของกุหลาบสดจากว้อดก้าก็อวลเบาๆในปาก เคล้าความหวานนิดๆของลิ้นจี้ลิเคียวแทรกรสอมเปรี้ยวนิดๆของน้ำเกรปฟรุ้ต ถือเป็นค็อกเทลตัวเบาที่จิบได้เรื่อยๆ
Seven Spoons ตั้งอยู่บนถนนจักรพรรดิพงษ์
เปิดทุกวันตั้งแต่ 11.00-14.30 น. และ 17.00-22.30 น.
โทร. 0-2629-9214, 08-4539-1819 หรือ Sevenspoonsbkk.com
- Seven Spoons สวรรค์ของคนรักอาหารอร่อย - November 25, 2019
- In Praise of WIJIT’s OIL PAINTING: 60×40 - October 1, 2019
- ชวนไปค้นหาสมบัติกับ 4 ตลาดนัดในโตเกียว ที่จะทำให้เสาร์-อาทิตย์ของคุณสนุกกว่าที่เคย - August 11, 2019
Writer & Photographer | ทำงานในนิตยสารผู้หญิงหัวนอกมานานเกือบสิบปีในตำแหน่งบรรณาธิการไลฟ์สไตล์ จนหนังสือปิดตัวลง ตามสภาพความเป็นไปของโลก เลยตัดสินใจเปลี่ยนอาชีพเป็นนักเขียนฟรีแลนซ์เต็มตัว และด้วยความที่รัก การท่องเที่ยวยิ่งชีพเลยขอบวกอาชีพนักเดินทางแถมเข้าไปในโปรไฟล์อีกหนึ่ง