‘Monkey Pod’ บาร์แอนด์เรสเตอรองท์ใหม่ ในบ้านไม้สไตล์โคโรเนียลใจกลางสุขุมวิท
จามจุรีต้นใหญ่แผ่กิ่งก้านไปทั่วบริเวณบ้านไม้ท้ายซอยสุขุมวิท 13 มันเป็นต้นเดียวกับที่เคยหยัดยืนและให้ร่มเงาแก่เจ้าของบ้านมาตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 อดีตบ้านไม้สไตล์โคโรเนียลที่มีชาวฮ่องกงเป็นเจ้าของ ตกทอดมาอยู่ในธุรกิจ Bar & Restaurant ในเครือ Blue Elephant ร้านอาหารไทยที่สร้างชื่อเสียงให้เมืองไทยดังไกลทั่วโลกมาหลายปี พร้อมชุบชีวิตบ้านไม้ที่เคยปล่อยร้างให้ก็กลับมามีลมหายใจอีกครั้ง
แม้จะอยู่ภายใต้ร่มเงาเดียวกับเครือร้านอาหารไทยกึ่ง Fine Dining ทว่าสไตล์การตกแต่งร้านจนถึงเมนูที่เสิร์ฟใน Monkey Pod Tapas Bar & Restaurant กลับแตกต่างและมอบประสบการณ์การรับประทานอาหารที่ตอบโจทย์คนเมืองยุคใหม่ได้อย่างลงตัว ร้านอาหารที่ตั้งชื่อตามต้นจามจุรีใหญ่ (Monkey Pod) ยังคงเก็บรักษาความสวยงามของตัวบ้าน นำมาผสมผสานกับเฟอร์นิเจอร์ เครื่องเรือน และลวดลายกราฟิตี้บนกำแพงที่สะท้อนความเป็น ‘Modern Esarn Cuisine’ ไว้ในบรรยากาศหรูหรา อบอุ่น และผ่อนคลายในเวลาเดียวกัน
สำหรับคนที่ต้องการสูดอากาศบริสุทธิ์ ท่ามกลางความร่มรื่นของพันธุ์ไม้เมืองร้อน Monkey Pod จัดที่นั่งเป็นโซนบาร์ใต้ต้นจามจุรีที่เป็นเสมือนนางเอกของร้าน ไว้คอยต้อนรับนักดื่มที่หลงใหลบรรยากาศผ่อนคลาย บางมุมตกแต่งด้วยโซฟาหวายที่ให้ความรู้สึกชิลล์ราวกับยก Beach Bar มาไว้ใจกลางกรุง หรือคุณจะหลบร้อนไปรับแอร์เย็นฉ่ำในบ้านไม้สไตล์โคโรเนียลก็สบายไม่แพ้กัน ดัดแปลงห้องรับแขกเดิมเป็นโถงต้อนรับ ที่มีชุดเก้าอี้ไม้วินเทจจัดวางเข้ากับเครื่องเรือนร่วมยุคสมัยเดียวกับตัวบ้าน ภาพอดีตเจ้าของบ้านชาวจีนนำมาประดับไว้ตรงกำแพง ทำหน้าที่เชื่อมต่อเรื่องราวของเจ้าเรือนกับร้านอาหารแห่งใหม่ ให้ความรู้สึกเหมือนเข้ามารับประทานอาหารในบ้านของคุณปู่ผู้ใจดี
แม้ความตั้งใจแรกของเจ้าของร้านที่อยากให้ Monkey Pod เป็นทาปาสบาร์หรืออาหารแนวคานาเป้พอดีคำกำลังอร่อย เน้นเมนูเครื่องดื่มเป็นหลัก แต่เมื่อโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อแผนเดิมที่วางไว้ ร้านจึงปรับเมนูใหม่ให้อิ่มท้อง พร้อมเปิดให้บริการทั้งกลางวันและกลางคืน โดยมี เชฟดู่-ทวีศักดิ์ พุทธาวงศ์ เชฟชาวลาวที่เกิดและเติบโตในเบลเยี่ยม ก่อนจะย้ายไปพำนักในอังกฤษและทำงานกับเชฟมิชลินสตาร์ถึงสองคนอย่าง ‘Claude Bosi’ และ ‘Albert Adrià’ บวกกับความหลงใหลในอาหารลาวบ้านเกิด นำมาผสมผสานเป็นอาหารสไตล์ ‘อีสาน-ลาว โมเดิร์น ทวิสต์’ หรืออาหารแนวอีสาน-ลาวรสนัวจัดจ้าน นำเสนอผ่านการตกแต่งจานอาหารสไตล์โมเดิร์นที่ดูน่ารับประทาน
เชฟดู่นำความทรงจำในวัยเด็กและรสมือแม่ ถ่ายทอดเป็นเมนู ‘Lao Dog’ หรือ ‘ฮอทด็อกหมั่นโถวทอดไส้กั่ว’ เมนูซิกเนเจอร์ของร้าน อร่อยกับหมั่นโถวทอดสไตล์ไต้หวันหอมกลิ่นเนยสด ตัดกับกลิ่นหอมของเครื่องเทศและรสชาติจัดจ้านของ ‘ไส้กั่ว’ (ไส้กรอกอีสานมิกซ์กับไส้อั่ว) เสิร์ฟคู่แจ่วมะเขือเทศสูตรลับของเชฟดู่ ชวนให้อร่อยฟินคิดถึงเมืองหลวงพระบาง
เมนูห้ามพลาดต้อง ‘สเต๊กพอร์คชอปย่างปลาร้า ยำสามชี’ ที่ คุณต้อง-จิรกฤต อุ่นจิต Project Manager ของร้านได้แรงบันดาลใจจากความอร่อยของหมูปลาร้าราชดำเนิน นำมาปรุงให้สะอาด หน้าตาดี ซอสปลาร้ารสนัวให้รสจัด หอมกลิ่นพอร์คชอปที่คัดสรรชิ้นกำลังสวย สายเนื้อสามารถเปลี่ยนหมูเป็นเนื้อแบล็คแองกัส (เนื้อวัวคุณภาพสูง) ได้ตามรสนิยม รับประทานคู่กับน้ำจิ้มแจ่วสูตรเฉพาะของเชฟดู่ และยำสามชี (ผักชีไทย ผักชีลาว และผักชีฝรั่ง) หนึ่งในเครื่องเคียงสูตรเด็ดที่จะเติมเต็มจานนี้ให้อร่อยฟินจนต้องสั่งเพิ่ม
อีกหนึ่งเมนูเด็ดที่ทางร้านแนะนำคือ ‘ไก่คลองไผ่อบพริกเหลือง’ เลือกใช้ไก่อารมณ์ดีจากฟาร์มเลี้ยงปล่อยในจังหวัดระยองให้รสชาติของเนื้อไก่อร่อยล้ำ นำมาหมักกับน้ำหมักพริกเหลืองและสมุนไพรหลายชนิด รับประทานคู่กับซอส Chimichurri หอมแขกดองบีทรูท แล้วต่อด้วยเมนูรู้ใจคนรักเนื้อ ‘ข้าวผัดแจ่วบองเนื้อแบล็คแองกัสย่างปลาร้า ไข่ดองน้ำปลา’ หอมกลิ่นปลาร้าบองลาวเข้ากันสุด ๆ กับเนื้อวัวหนานุ่ม หรือจะเปลี่ยนเป็นเนื้อหมูก็อร่อยไม่แพ้กัน
ปิดท้ายด้วยของหวานที่รสชาติเข้ากับฤดูกาล ‘ไอศกรีมนมซอสส้มซ่า ราดด้วยซอสโหระพา’ ให้รสเปรี้ยวอมหวานหอมกลิ่นส้มซ่า เป็นเมนูที่ให้ความรู้สึกสดชื่นและชุบชูใจในวันที่อากาศร้อนได้อย่างดี ส่วนเมนูเครื่องดื่มก็มีให้เลือกชิมเพียบ อาทิ Monkey Planet ,Monkey Lemonade , Monkey Spritzer , Tropical Spice , Detox Detox เป็นต้น รับรองว่า แต่ละแก้วผ่านการครีเอทสูตรโดยมิกโซโลจิสต์ พร้อมมอบความประทับใจให้คุณอยากกลับมานั่งผ่อนคลาย ภายใต้ร่มเงาของจามจุรีและบ้านไม้สไตล์โคโรเนียลยุคสงครามโลกครั้งที่สองแห่งนี้…ครั้งแล้วครั้งเล่า
About ‘Monkey Pod’
ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 13 เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 11.00-20.00 น. ภายในมีที่จอดรถรองรับได้ประมาณ 8-10 คัน อนุญาตให้ลูกค้านำสัตว์เลี้ยงเข้ามาที่ร้านได้ สำรองที่นั่งหรือสอบถามเพิ่มเติมที่ โทร. 02-115-9830 และติดตามความเคลื่อนไหวได้ทาง www.facebook.com/Monkeypodbkk หรือ Line @monkey_pod
กดติดตามเราได้ที่
website : www.fyibangkok.com
facebook :
instagram :
twitter :
youtube :
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์ถึงกองบรรณาธิการ : pr.fyibangkok@gmail.com
โทรศัพท์ 096 449 9516
- รวมไอเดียแฟชั่นชุดกี่เพ้า ตรุษจีนปีนี้คุณต้องเก๋จัดกว่าใคร - January 20, 2020
- พัทยาพาฟิน! ขับรถไปเช็คอินเก๋ๆ ที่ร้าน ‘ไทยมาเช่’ กันดีกว่า - December 5, 2019
- นิทรรศการ Living Cemetery นิทรรศการเดี่ยวของปราง เวชชาชีวะ - August 30, 2019
สมัชชา เกิดมาในยุคภาพถ่ายขาวดำและกล้องฟิล์มผ่านการร่ำเรียนด้านการถ่ายภาพจาก.
คณะศิลปกรรมศาสตร์ สาขาทัศนศิลป์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เคยร่วมงานถ่ายภาพกับเอเจนซี่ชื่อดังก่อนจะไปใช้ชีวิตที่ลอส แอนเจลิส สหรัฐอเมริกา
สมัชชา เป็นช่างภาพมืออาชีพที่ได้รับการยอมรับว่าสามารถสร้างความมหัศจรรย์และมนต์เสน่ห์ให้แก่ภาพถ่ายทุกภาพได้อย่างน่าทึ่ง ทั้งในด้านการจัดวางองค์ประกอบ การให้แสง ตลอดจนการทำ Post Production เขามีปรัชญาการทำงานว่า “สร้างความแปลกใหม่ให้กับงานธรรมดาๆ แต่ต้องสามารถใช้งานได้จริง”
สมัชชา ยังคงถ่ายภาพอย่างต่อเนื่อง ใช้ชีวิตอันแสนจะวุ่นวายกับภรรยาและแมวอีก 40 ตัว