พาชมนิทรรศการ SIRIVANNAVARI GRACE GLAMOUR GLORY ศิลปะแห่งความงามของผ้าไทยและสิ่งทอร่วมสมัย
“ข้าพเจ้าคิดว่า ผ้าไทยสามารถนำเสนอและสวมใส่ได้หลายรูปแบบ ทั้งในรูปแบบที่เป็นทางการและรูปแบบที่สนุกสนานตามแต่ผู้ออกแบบ หรือผู้สวมใส่จะเลือกนำเสนอ หากทุกท่านเข้าใจเช่นนี้แล้วก็จะเป็นการช่วยผลักดันให้ผ้าไทย สามารถเดินเคียงข้างไปกับแฟชั่นได้อย่างเต็มภาคภูมิ”
ตอนหนึ่งของบทบรรณาธิการในหนังสือสูจิบัตรของนิทรรศการ SIRIVANNAVARI GRACE GLAMOUR GLORY โดยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงประพันธ์ไว้ ประกอบการจัดแสดงนิทรรศการฯ เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุครบ 3 รอบ 36 พรรษา เพื่อเผยแพร่พระราชกรณียกิจในการสืบสาน รักษา และต่อยอดพระราชปณิธานสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สมเด็จย่าของพระองค์ ในการอนุรักษ์ ส่งเสริมและพัฒนาผ้าไทย
เมื่อเดินขึ้นไปบนโถงหินอ่อนบนชั้น 2 ของพิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในพระบรมมหาราชวัง เราจะพบกับห้องจัดแสดงนิทรรศการ SIRIVANNAVARI GRACE GLAMOUR GLORY ภายในได้รับการตกแต่งด้วยโทนสีดำและนำลวดลายของผ้าทอที่มีเอกลักษณ์ของไทย มาจัดแสดงในรูปแบบมัลติมีเดียที่ดูร่วมสมัย ให้ความรู้สึกราวกับเรากำลังเดินเข้าไปชมนิทรรศการโอต์กูตูร์ (Haute Couture) ของดีไซเนอร์ระดับโลก
ฉลองพระองค์ชุดราตรีสีแดงและสีม่วงสง่างามเปล่งประกายใต้แสงไฟสีละมุนตา พร้อมกับฉลองพระองค์ ฉลองพระบาท และพระกระเป๋าถือ จำนวนกว่า 39 องค์ ที่ได้รับการจัดแสดงอย่างพิถีพิถัน เก็บรักษาด้วยอุณหภูมิที่เหมาะสม และแบ่งออกเป็น 3 โซนหลัก ได้แก่ โซนฉลองพระองค์ไทยร่วมสมัย โซนฉลองพระองค์ไทยพระราชนิยม และโซนกิจกรรมอินเตอร์แอคทีฟ เพื่อให้ผู้เข้าร่วมชมนิทรรศการฯ ได้มีส่วนร่วมกับการออกแบบเครื่องแต่งกายจากภูมิปัญญาไทยด้วยตัวเอง
สีสันและลายผ้าบนความสง่างามของ “ฉลองพระองค์ไทยร่วมสมัย”
โซนฉลองพระองค์ไทยร่วมสมัยเป็นส่วนจัดแสดงแรกที่ผู้เข้าร่วมงานได้รับชม ท่ามกลางฉลองพระองค์ที่ทรงสวมใส่ในโอกาสต่าง ๆ อาทิ ฉลองพระองค์ชุดราตรี (Evening Gown) ฉลองพระองค์แบบสากล (Two-Piece Ensemble) การจัดแสดงพระกระเป๋า และฉลองพระบาท ภายใต้แบรนด์ SIRIVANNAVARI ที่ทรงเป็นผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ของแบรนด์ และทรงออกแบบเสื้อผ้าที่สวยงามมีเอกลักษณ์หลายคอลเล็กชั่น รวมถึงกระเป๋าและรองเท้าคุณภาพสูงที่สร้างสรรค์จากวัสดุหลากหลาย ทั้งหนังสัตว์ ไม้ โลทะ และผ้าทอของไทย นับเป็นการเชิดชูงานศิลปะจากช่างฝีมือในประเทศให้เป็นที่ประจักษ์ในระดับสากล
ฉลองพระองค์ส่วนใหญ่เป็นผลงานของ “ห้องเสื้อสิริวัณณวรี กูตูร์” “ห้องเสื้อธีระพันธ์” (โดยธีระพันธ์ วรรณรัตน์) และ “ห้องเสื้อวิชระวิชญ์” (โดยวิชระวิชญ์ อัครสันติสุข) พร้อมบอกเล่าเรื่องราวโอกาสพิเศษต่าง ๆ ที่พระองค์เสด็จไปประกอบพระกรณียกิจทั้งในและต่างประเทศ ผ่านแท็บเล็ตที่มีให้เลือก 2 ภาษา (ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ) เพื่อให้ผู้ชมสามารถศึกษาที่มาของผ้าไทยจากทั่วทุกภูมิภาค ตั้งแต่กระบวนการตัดเย็บ เทคนิกการทอผ้า และลวดลายต่าง ๆ บนผืนผ้า ที่ผ่านการออกแบบตัดเย็ยให้ดูร่วมสมัยและมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร
“ฉลองพระองค์ไทยพระราชนิยม” ท่ามกลางเสียงชื่นชมของชาวต่างชาติ
โซนจัดแสดงฉลองพระองค์ไทยพระราชนิยม เช่น “ฉลองพระองค์ชุดไทยบรมพิมาน” ตัดเย็บจากผ้าไหมพื้น ผ้ายก ผ้ากรองทองปักประดับลูกปัดและเลื่อมเป็นลายดอกแปดกลีบในลายราชวัตร ทรงในโอกาสพระราชพิธีบรมราชาภิเษกพุทธศักราช 2562 ในการเสด็จออก ณ สีหบัญชร พระที่นั่งสุทไธสวรรย์ปราสาท “ฉลองพระองค์ชุดไทยจักรพรรดิ” ตัดเย็บจากผ้าไหมยกทอง ละผ้ากรองทอง ปักประดับลูกปัด เลื่อม ดิ้นทอง และดิ้นเงิน และ “ฉลองพระองค์ชุดไทยบรมพิมาน” ตัดเย็บจากผ้าไหมพื้นและผ้ายก ปักประดับลูกปัด ทั้ง 3 องค์เป็นผลงานการตัดเย็บโดยธีระพันธ์ วรรณรัตน์
ใกล้กันจัดแสดงพระกระเป๋าและฉลองพระบาท ภายใต้แบรนด์ SIRIVANNAVARI ที่ทรงเป็นผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ของแบรนด์ และทรงออกแบบเสื้อผ้าที่สวยงามมีเอกลักษณ์หลายคอลเล็กชั่น รวมถึงกระเป๋าและรองเท้าคุณภาพสูงที่สร้างสรรค์จากวัสดุหลากหลาย ทั้งหนังสัตว์ ไม้ โลทะ และผ้าทอของไทย รวมถึงงานสานย่านลิเภา งานถมทอง และงานคร่ำทอง ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นงานหัตถศิลป์อันทรงคุณค่ามาแต่โบราณ นับเป็นการเชิดชูงานศิลปะจากช่างฝีมือในประเทศให้เป็นที่ประจักษ์ในระดับสากล
สวมบทดีไซเนอร์หน้าใหม่ในโซน “กิจกรรมแอคทีฟ”
ปิดท้ายด้วยโซนกิจกรรมอินเตอร์แอคทีฟ จัดแสดงหุ่นแสดงผ้าทอและชั้นวางของจากภาพโฮโลแกรม เปิดโอกาสให้ผู้ที่มาเยี่ยมชมนิทรรศการได้ลองรังสรรค์เครื่องแต่งกายจากภูมิปัญญาไทยด้วยตัวเอง เพื่อให้คนไทยมีความรู้สึกภูมิใจในผืนผ้าทอแบบต่าง ๆ ของชาวไทยทุกภูมิภาค ตลอดจนสนุกกับการรับบมดีไซเนอร์หน้าใหม่ได้อย่างเต็มที่ ขณะเดียวกันชาวต่างชาติก็ได้ค้นพบความสวยงามและเสน่ห์ของผ้าไทย ที่สามารถนำมาออกแบบกับดีไซน์ร่วมสมัยได้อย่างลงตัว
“ข้าพเจ้าหวังว่าจะทำให้คนรุ่นใหม่เห็นความงดงามของผ้าไทย สิ่งทอร่วมสมัย ที่สามารถนำมาสวมใส่ได้หลายโอกาส สะท้อนถึงภูมิปัญญาในการสร้างสรรค์ผืนผ้าของแต่ละท้องถิ่นของไทย ตามแนวพระราชปณิธานอันยิ่งใหญ่ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง”
นอกจากนี้ ภายในพิพิธภัณฑ์ผ้าฯ ยังจัดแสดงนิทรรศการ “สิริราชพัสตราบรมราชินีนาถ” (Decades of Style: The Royal Wardrobe of Her Majesty Queen Sirikit) เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม พ.ศ. 2565 และภายในร้านพิพิธภัณฑ์ผ้าฯ จำหน่ายผลิตภัณฑ์จากนิทรรศการ SIRIVANNAVARI GRACE GLAMOUR GLORY เช่น ปลอกหมอน ผ้าพันคอ กระเป๋า กระบอกน้ำ และ ร่ม เป็นต้น
ผู้ที่สนใจ ชื่นชอบ และศึกษาเกี่ยวกับผ้าและงานหัตถศิลป์จากภูมิปัญไทย รวมถึงแฟชั่นร่วมสมัยที่นำความเป็นไทยผสานกับความเป็นสากลได้อย่างลงตัว สามารถเข้าชมนิทรรศการ SIRIVANNAVARI GRACE GLAMOUR GLORY ได้ตั้งแต่วันนี้ถึงเดือนเมษายน พ.ศ. 2567 เปิดให้เข้าชมทุกวันเวลา 09.00 – 16.30 น. (ปิดจำหน่ายบัตรเข้าชมเวลา 15.30 น.)
กดติดตามเราได้ที่
website : www.fyibangkok.com
facebook :
instagram :
twitter :
youtube :
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์ถึงกองบรรณาธิการ : pr.fyibangkok@gmail.com
โทรศัพท์ 096 449 9516
- รวมไอเดียแฟชั่นชุดกี่เพ้า ตรุษจีนปีนี้คุณต้องเก๋จัดกว่าใคร - January 20, 2020
- พัทยาพาฟิน! ขับรถไปเช็คอินเก๋ๆ ที่ร้าน ‘ไทยมาเช่’ กันดีกว่า - December 5, 2019
- นิทรรศการ Living Cemetery นิทรรศการเดี่ยวของปราง เวชชาชีวะ - August 30, 2019
ชอบ : ถ่ายรูป จักรยาน เย็บเครื่องหนังด้วยมือ ขี่มอเตอร์ไซค์