Now Reading
นิทรรศการกลุ่มที่คัดสรรและดูแลการจัดแสดงโดย วาฬมีปีก | Flying Whale ระหว่างวันที่ 25 พฤศจิกายน – 14 ธันวาคม 2568 ที่ ลานกิจกรรม ชั้น 5 เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า

นิทรรศการกลุ่มที่คัดสรรและดูแลการจัดแสดงโดย วาฬมีปีก | Flying Whale ระหว่างวันที่ 25 พฤศจิกายน – 14 ธันวาคม 2568 ที่ ลานกิจกรรม ชั้น 5 เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า

วาฬมีปีก | Flying Whale ร่วมกับ เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า จัดนิทรรศการ Beyond Festivity เพื่อเพิ่มพื้นที่ศิลปะและเติมบรรยากาศคริสต์มาสในมุมมองที่อบอุ่นและร่วมสมัย พร้อมต้อนรับการเปิดโซนใหม่ของชั้น 5 อย่างเต็มรูปแบบ หลังการปรับปรุงโฉมครั้งใหญ่ของ เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า งานนี้นำเสนอผลงานศิลปะจาก 7 ศิลปินและนักวาดภาพประกอบที่น่าจับตา ชวนผู้ชมใช้เวลาหยุดพักจากความวุ่นวาย และค้นหาความหมายอีกด้านที่ “มากกว่าการเฉลิมฉลอง” ของเทศกาลแห่งความสุขส่งท้ายปีที่ทุกคนรอคอย

Beyond Festivity คือนิทรรศการกลุ่มที่คัดสรรและดูแลการจัดแสดงโดย วาฬมีปีก | Flying Whale นำเสนอผลงานที่สร้างสรรค์ขึ้นใหม่ทั้งหมดจากศิลปินและนักวาดภาพประกอบ 7 คน ได้แก่ Tum Ulit / faan.peeti / katangg / 2an. / May&Clay / Pou Rawiwan / และ PYH ซึ่งต่างถ่ายทอดเรื่องราวผ่านลายเส้นอันเป็นเอกลักษณ์และภาษาภาพที่เข้าถึงง่าย แต่แฝงไว้ด้วยความรู้สึกและแนวคิดอันลึกซึ้ง

แรงบันดาลใจของนิทรรศการเกิดจากคำถามที่ว่า “ในโลกที่เร่งรีบและขับเคลื่อนด้วยการแข่งขัน ความคาดหวัง และการพิสูจน์ตัวเองอยู่เสมอ เราจะยังพอมีโอกาสได้หยุดพักจากเงื่อนไขเหล่านั้น และสัมผัสถึงคุณค่าอื่น ๆ ของชีวิตบ้างไหม ?” Beyond Festivity จึงหยิบยกเทศกาลคริสต์มาสมาตีความในฐานะช่วงเวลาแห่งการหยุดพัก เพราะเชื่อว่าช่วงเวลาแสนพิเศษนี้ ได้เปิดพื้นที่เล็ก ๆ ให้ผู้คนได้ชะลอจังหวะชีวิต วางความคิดเรื่องเป้าหมายไว้ชั่วคราว และมองเห็นถึงความหมายอีกด้านหนึ่งที่เรียบง่ายของการมีชีวิตอยู่ ไม่ว่าจะเป็น ความสงบ ความอบอุ่น ความคิดถึง หรือความสุขเล็ก ๆ ที่เราอาจมองข้ามไปในระหว่างปี

นอกจากการจัดแสดงและเปิดให้จับจองเพื่อสะสมผลงานของศิลปินทั้ง 7 คนแล้ว ภายในนิทรรศการยังมีกิจกรรมและสิ่งที่น่าสนใจอีกมากมาย ให้ผู้ชมได้เข้ามาสัมผัสและมีส่วนร่วม ดังนี้

1. The Hearth of Time: แลนด์มาร์กประจำนิทรรศการในรูปแบบ installation ที่ผสมผสาน “เตาผิง” ซึ่งสื่อถึงความอบอุ่นและความสงบของบ้านในฤดูหนาวแบบตะวันตก เข้ากับ “นาฬิกาไร้เข็ม” สัญลักษณ์แทนช่วงเวลาแห่งการหยุดพัก ภายในประดับด้วยองค์ประกอบบางส่วนจากผลงานของศิลปินทั้ง 7 คน

2. Letter Between Moments: กิจกรรมเขียนและติดการ์ดบนผนัง เพื่อแบ่งปันความหมายหรือคุณค่าที่ผู้ชมค้นพบในเทศกาลคริสต์มาสและช่วงเวลาแห่งการหยุดพักในแบบของตัวเอง ก่อนจะปิดท้ายด้วยการเลือกหยิบการ์ดจากศิลปินทั้ง 7 คน และ วาฬมีปีก กลับไปเป็นของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ จากนิทรรศการ

3. Workshop Zone: โซนเวิร์กชอปงานศิลปะและงานฝีมือในธีมคริสต์มาสที่มีศิลปินบางส่วนจากทั้ง 7 คน หมุนเวียนกันมาถ่ายทอดเทคนิคการสร้างสรรค์ผลงานน่ารัก ๆ ในแบบของตน เช่น การทำตุ๊กตากระดาษ และการทำชิ้นงาน Memorable Polaroid

4. Home is where the cat is”: ประติมากรรมแมวที่ดูคล้ายกับกำลังสวมชุดบ้าน พร้อมการตกแต่งด้วยของประดับคริสต์มาส ผลงานความร่วมมือชิ้นพิเศษระหว่าง Tum Ulit และศิลปินรับเชิญ Pakteemo (ภัคธีมา วานิชย์หานนท์)

5. มุมของที่ระลึกจากนิทรรศการ: รวมสินค้าจำนวนจำกัดและของที่ระลึกจากผลงานศิลปะของศิลปินทั้ง 7 คน ที่ออกแบบขึ้นใหม่เฉพาะสำหรับนิทรรศการนี้

นิทรรศการ Beyond Festivity เปิดให้เข้าชมฟรี ระหว่างวันที่ 25 พฤศจิกายน – 14 ธันวาคม 2568 ที่ ลานกิจกรรม ชั้น 5 เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า

โดยติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/flyingwhalemag/ และ

https://www.facebook.com/CentralPinklaoFanpage /

เกี่ยวกับ วาฬมีปีก | Flying Whale

วาฬมีปีก | Flying Whale คือสื่อและแพลตฟอร์มออนไลน์ด้านการท่องเที่ยว ศิลปะ และวัฒนธรรมสร้างสรรค์ ที่นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับนิทรรศการศิลปะ งานออกแบบพื้นที่สาธารณะ พิพิธภัณฑ์ และอีเวนต์งานสร้างสรรค์ ทั้งในไทยและต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศญี่ปุ่น

เนื้อหาในแต่ละช่องทางมุ่งเล่าถึงแนวคิด ความรู้สึก แรงบันดาลใจ และประเด็นทางสังคม เบื้องหลังงานสร้างสรรค์ของศิลปินและครีเอเตอร์ในหลากหลายสาขา โดยถ่ายทอดผ่าน งานเขียน ภาพถ่าย และคลิปวิดีโอสั้น ควบคู่กับการแนะนำสถานที่และกิจกรรมต่าง ๆ อย่างละเอียด เพื่อให้ผู้ติดตามสามารถเดินทางไปสัมผัสประสบการณ์เหล่านั้นได้ด้วยตนเอง

เกี่ยวกับศิลปิน

1. Tum Ulit (ณฐกร อุลิตร) จบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากสาขาวิชาการผลิตแอนิเมชัน วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นศิลปินและนักวาดการ์ตูนที่มีผู้ติดตามกว่า 1.7 ล้านคนจากทุกแพลตฟอร์มออนไลน์ งานของเขาโดดเด่นด้วยการเล่าเรื่องในรูปแบบการ์ตูนช่อง (comics) ที่ใช้เพียงภาษาภาพ โดยไม่มีข้อความใด ๆ เลย ทำให้สื่อสารกับผู้ชมทั่วโลกได้อย่างปราศจากกำแพงทางภาษา เนื้อหามักสะท้อนความรู้สึกของผู้คนในหลากหลายสถานการณ์ ซึ่งผู้ชมสามารถเชื่อมโยงประสบการณ์และมองเห็นตัวเองอยู่ในแต่ละตัวละครได้ Tum Ulit เคยร่วมแสดงนิทรรศการกลุ่มหลายครั้ง ก่อนที่จะประสบความสำเร็จอย่างมากจากนิทรรศการเดี่ยวครั้งแรก “Who’s Cutting Onions ?” ที่ ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก

2. faan.peeti (ปีติชา คงฤทธิ์) จบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และปริญญาโทจากสาขา Communication Design: Illustration, Kingston University สหราชอาณาจักร เป็นศิลปินและนักวาดภาพประกอบที่หลงรักในการวาดด้วยลายเส้นอันละเอียดละออ เธอมักถ่ายทอดภาพธรรมชาติ พืชพรรณ สัตว์พูดได้ และภูตตัวจิ๋ว โดยมีความทรงจำวัยเยาว์และเทพนิยายเป็นแรงบันดาลใจสำคัญ faan.peeti เชื่อในจิตวิญญาณความเป็นเด็กที่ยังคงอยู่ในผู้ใหญ่ และสร้างสรรค์งานศิลปะเพื่อคอยย้ำเตือนให้เราเห็นถึงคุณค่าของปัจจุบัน รวมถึงพลังจากข้างในที่คอยค้ำจุนให้สามารถก้าวต่อไปได้ faan.peeti เคยมีนิทรรศการเดี่ยว “Yindee’s Mysterious Friends” ที่ ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก และร่วมแสดงในนิทรรศการกลุ่มอีกหลายครั้ง

3. katangg (ภพสรรค์ ธำรงพิพัฒน์) จบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากคณะจิตรกรรม ประติมากรรม และภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร เป็นศิลปินที่ทำงานได้ทั้งประติมากรรมและจิตรกรรม โดยเขามักเลือกใช้เทคนิคที่แตกต่างกันในแต่ละชิ้น ขึ้นอยู่กับว่า เรื่องที่จะเสนอนั้นควรถ่ายทอดผ่านสื่อหรือวัสดุแบบใด ผลงานของ katangg โดดเด่นด้วยการใช้สัญลักษณ์หลากหลาย นำมาร้อยเรียงกันเพื่อมุ่งเล่าเพียงประเด็นเดียวได้อย่างลึกซึ้ง หัวข้อที่เขาสนใจคือ “ความทรงจำ” ซึ่งมีคุณยายที่ป่วยเป็นอัลไซเมอร์เป็นแรงบันดาลใจหลัก เห็นได้จากตัวละครประจำตัวอย่าง “จ๋อย” ที่ชื่ออ่านได้สองแบบทั้ง “จ๋อย” ในภาษาไทยที่หมายถึงความซึม และ “Joy” ในภาษาอังกฤษที่หมายถึงความสุข ตัวละครนี้นอกจากจะเป็นตัวแทนความรู้สึกของศิลปินแล้ว ยังสะท้อนภาวะอารมณ์ที่สลับไปมาของผู้เป็นอัลไซเมอร์ด้วย katangg จัดแสดงผลงานมาแล้วหลายครั้ง และเคยมีนิทรรศการเดี่ยวสองครั้ง ที่ PLAY art house ได้แก่ “Best before ความทรงจำของฉันมีวันหมดอายุ” และ “Adoubt time คำสารภาพของคนไม่อยากโต”

4. 2an. หรือ “สองอัน” (อัญชิสา ติระชูศักดิ์) จบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นศิลปินและนักวาดภาพประกอบที่ชอบวาดท้องฟ้าและภูมิทัศน์ทางธรรมชาติ โดยมักดึงภาพจากสถานที่ที่เธอเคยไปเยือนแล้วรู้สึกประทับใจ มาสร้างใหม่ด้วยโทนสีสบายตาและบรรยากาศที่แฝงความแฟนตาซี ปัจจุบันเธอกำลังสนใจเติมองค์ประกอบแฟนตาซีผ่านตัวละครสัตว์ทะเลนานาชนิด โดยเฉพาะ “วาฬ” ซึ่งสำหรับศิลปินแล้ว วาฬเป็นสัญลักษณ์ของทั้งความเป็นอิสระและความอบอุ่น ซึ่งกลายเป็นแก่นสำคัญที่ปรากฏในผลงานของเธอเสมอ เพื่อส่งมอบความผ่อนคลายและเยียวยาหัวใจให้กับผู้ชม 2an. ยังต่อยอดงานศิลปะของตนเป็นของใช้และสินค้าน่ารัก ๆ มากมาย และเคยมีนิทรรศการเดี่ยว “Run away with me” ที่ The CAS House รวมถึงร่วมแสดงในนิทรรศการกลุ่มหลายครั้ง

5. May&Clay (กมลชนก ภาณุเวศย์) จบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากสาขาการออกแบบ (เซรามิก) คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยได้รับทุนการศึกษาจากมูลนิธิ A&H Fujimoto Foundation และหลังเรียนจบ เธอยังได้รับทุนจากมูลนิธิเดียวกัน เพื่อเดินทางไปฝึกปฏิบัติงานด้านเซรามิกที่ประเทศญี่ปุ่นเป็นเวลา 3 เดือน เป็นศิลปินและนักออกแบบที่ถนัดงานเซรามิกและชื่นชอบการวาดภาพ ผลงานบางส่วนของเธอได้รับแรงบันดาลใจจากแนวคิดและบรรยากาศอันอบอุ่นแบบ Studio Ghibli ทำให้แต่ละชิ้นมักสอดแทรกอารมณ์ที่ลึกซึ้ง และแง่มุมเชิงปรัชญาเกี่ยวกับธรรมชาติและความสัมพันธ์อยู่เสมอด้วย อีกหนึ่งจุดเด่นคือตัวละคร “Merri May” เด็กหญิงวัย 9 ขวบ ผู้รักอิสระ กล้าหาญ และชอบผจญภัย ที่ปรากฏตัวบ่อยครั้งในโลกแฟนตาซีที่ศิลปินสร้างขึ้น May&Clay เคยแสดงผลงานทั้งในไทยและต่างประเทศ และเคยเข้าร่วมโครงการศิลปินในพำนักมาแล้ว ณ หลายเมืองใหญ่ในเอเชียตะวันออก

6. Pou Rawiwan (ระวิวรรณ จันทร์เนตร) จบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากสาขาวิชาการสื่อสารมวลชน (การโฆษณา) มหาวิทยาลัยกรุงเทพ และปริญญาโทจากสาขา Tourism and Hospitality, Bournemouth University สหราชอาณาจักร เป็นศิลปินและนักออกแบบมากประสบการณ์ เจ้าของแบรนด์ผ้าพันคอแฮนด์เมด Lunar Queen Scarf ที่มีเอกลักษณ์อยู่ที่ลวดลายภาพวาดสีน้ำฝีมือเธอเอง Pou Rawiwan เริ่มต้นเส้นทางศิลปินอย่างเต็มตัว หลังได้เข้าร่วมเป็นศิลปินในพำนักของ ริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก ตั้งแต่ปี 2564 จนถึงปัจจุบัน ผลงานของเธอมีทั้งสีน้ำและสีอะคริลิก ถ่ายทอดเรื่องราวผ่านคู่ตัวละคร “หมีขาว” และ “เด็กผู้หญิง” ท่ามกลางฉากหลังอันสวยงาม ที่ทำหน้าที่เล่าถึงความสัมพันธ์อันอบอุ่นของคนสองคน ให้ผู้ชมได้รู้สึกมีความสุขและอิ่มเอมหัวใจ Pou Rawiwan เคยแสดงผลงานมาแล้วหลายครั้งในอาร์ตแฟร์ และเทศกาลศิลปะต่าง ๆ

7. PYH (ณฐพล ภาคภูมิกมลเลิศ) จบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร เป็นศิลปินและนักวาดภาพประกอบรุ่นใหม่ ผู้ชื่นชอบการวาดสัตว์หลากหลายชนิดให้มาอยู่ร่วมกันในฉากเหนือจริง ราวกับบรรยากาศในความฝัน ผลงานของเขาโดดเด่นด้วยการวาดพื้นผิวที่เต็มไปด้วยรายละเอียดเล็ก ๆ นอกจากนี้ ยังมีตัวละครเด็กชายผมสีทองในชุดผ้าดิบ ซึ่งสื่อถึงความเป็นตัวของตัวเอง และมักใช้แทนตัวศิลปินในการถ่ายทอดเรื่องราว งานของ PYH มักแฝงความหมายเกี่ยวกับมุมมองที่เขามีต่อเหตุการณ์รอบตัว รวมถึงวิธีคิดในการรับมือกับปัญหาต่าง ๆ อย่างมีความหวัง PYH เป็นหนึ่งใน BKKIF Artist ติดต่อกันสองปีซ้อน (2567/2568) และผลงานของเขายังเคยได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน Finalists พร้อมจัดแสดงในงาน Busan Illustration Fair 2025 ประเทศเกาหลีใต้ด้วย

กดติดตามเราได้ที่

website       :  www.fyibangkok.com

facebook     : https://www.facebook.com/fyibangkok

instagram    : https://www.instagram.com/fyibangkok

twitter         : https://twitter.com/fyibangkok

youtube       : https://www.youtube.com/channel/UChhOQmckv2fqgkXJZ-Q1nCA

ส่งข่าวประชาสัมพันธ์ถึงกองบรรณาธิการ : pr.fyibangkok@gmail.com 
โทรศัพท์ 096 449 9516

กุลยา กาศสกุล