Now Reading
‘ตุ๊บตั๊บเหล่าแปะ’ ตำนานขนมหวานขายดี พบกันปีละครั้งช่วงกินเจ

‘ตุ๊บตั๊บเหล่าแปะ’ ตำนานขนมหวานขายดี พบกันปีละครั้งช่วงกินเจ

ตุ๊บตั๊บ ขนมหวานที่คนไทยคุ้นเคยมาหลายชั่วรุ่น มีต้นกำเนิดมาจาก ‘กงถัง’ (Gong Tang) ลูกอมถั่วลิสงของชาวจีน ที่แม้จะดูเหมือนของหวานธรรมดา ๆ แต่แท้จริงแล้วกงถังเคยเป็นเครื่องบรรณาการที่ชาวมณฑลฝูเจี้ยนทางตอนใต้ของประเทศจีน ถวายแด่จักรพรรดิสมัยราชวงศ์หมิง (ค.ศ.1368-1644) จนกลายเป็นขนมโปรดของราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิงเมื่อราว 600 ปีก่อน ขนมมงคลที่สื่อถึงความอุดมสมบูรณ์ ความยั่งยืน และความเจริญรุ่งเรืองไม่สิ้นสุด ทั้งยังเป็นมรดกกินได้ทางวัฒนธรรมที่เชื่อมต่อประวัติศาสตร์กับโลกยุคปัจจุบัน และกลายเป็นขนมหวานในทุกเทศกาลของชาวจีนโพ้นทะเลมาหลายศตวรรษ

ประวัติศาสตร์หวานกรุบขนม ‘ตุ๊บตั๊บ’ ที่มากกว่าขนมกินเล่น

มีทฤษฎีหลักสองประการเกี่ยวกับขนม ‘กงถัง’ หรือ ‘ตุ๊บตั๊บ’ ตำนานแรกเล่าว่า มันเคยเป็นเครื่องบรรณาการที่ชาวมณฑลฝูเจี้ยนถวายแด่จักรพรรดิแห่งราชวงศ์หมิง โดยคำว่า ‘กง’ ในภาษาหมิ่นหนาน หมายถึง ‘เครื่องบรรณาการ’ อีกตำนานเล่าถึงที่มาของคำว่า ‘กง’ มาจากการเลียนเสียงทุบถั่วด้วยไม้ ส่วนคำว่า ‘ถัง’ หมายถึง ‘น้ำตาล หรือของหวาน ’ กงถังจึงไม่ใช่แค่ขนม หากแต่เป็น “ส่วยในรูปแบบขนมหวาน” ที่นำถวายแด่ศูนย์กลางอำนาจของชาวจีนในสมัยโบราณ

ตามความเชื่อของชาวจีน ‘ถั่วลิสง’ เป็นสัญลักษณ์ของสิริมงคล ด้วยชื่อเรียกในภาษาจีน 花生 (ฮวาเซิง) พ้องเสียงกับคำที่มีความหมายว่า ‘การเกิดใหม่’ และ ‘ความเจริญรุ่งเรือง’ บวกกับรสชาติหวาน ๆ มัน ๆ ทำให้ถั่วลิสงกลายเป็นส่วนผสมหลักในขนมหวานประจำเทศกาลต่าง ๆ ของชาวจีนมาแต่ครั้งโบราณ เพื่อสื่อถึงชีวิตที่หวานชื่นและราบรื่นทุกประการ แม้แต่เมล็ดถั่วลิสงก็มีความหมายมงคล หมายถึง ผู้มีทายาทมากและมีผู้สืบสกุลไม่ขาดสายอีกด้วย

ตำนานเล่าว่าเสียง ‘ตุ๊บตั๊บ’ ที่เกิดจากค้อนไม้กระทบเขียง เปรียบเสมือน Ritual Sonic หรือพิธีกรรมแห่งความหวาน ที่ต้องอาศัยความพิถีพิถัน ความอดทน และสมาธิ ทุกจังหวะที่สร้างแรงสั่นสะเทือนเหมือนคำอธิษฐานต่อเทพเจ้า เพื่อให้ชีวิตเปี่ยมด้วยความอุดมสมบูรณ์และความร่มเย็น อันเป็นที่มาของชื่อ ‘ตุ๊บตั๊บ’ ในภาษาไทย ซึ่งเกิดจากเสียงค้อนไม้ทุบลงบนถั่วอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ถั่วมีเนื้อสัมผัสกรุบกรอบกำลังดี ไม่เละจนเกินไป ก่อนจะนำไปคลุกเคล้ากับน้ำตาลเคี่ยวจนหอมหวาน จากนั้นก็นำเข้าสู่กระบวนการนวดคลึงบนเขียงไม้ขนาดยักษ์และตีซ้ำ ๆ จนจับตัวเหนียว ยืดหยุ่น และมันวาว ช่างฝีมือจึงต้องทำงานอย่างรวดเร็วก่อนที่ขนมจะเย็นและแข็งตัว จากนั้นจึงขึ้นรูปและตัดเป็นชิ้น ๆ อย่างแม่นยำ

ปัจจุบัน เกาะจินเหมิน (Kinmen Islands) เกาะเล็ก ๆ ของไต้หวัน ใกล้กับชายฝั่งมณฑลฝูเจี้ยนของจีนแผ่นดินใหญ่ เป็นศูนย์กลางการผลิตกงถัง (ตุ๊บตั๊บ) ที่มีชื่อเสียงที่สุด ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของแร่ธาตุในดินและสภาพภูมิอากาศที่เอื้อต่อการเจริญเติบโต ทำให้ถั่วลิสงบนเกาะแห่งนี้มีขนาดเล็กและเหนียวกว่าทั่วไป ขนมกงถังจึงกรอบอร่อยมากเป็นพิเศษ ทั้งยังให้รสชาติหวานกลมกล่อมและมีกลิ่นถั่วชัดทุกคำ ร้านค้าท้องถิ่นยังคงใช้วิธีตำกงถังด้วยมือแบบดั้งเดิม ทำให้ขนมทุกชิ้นสะท้อนถึงมรดกทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์กินได้ (An Edible History of Humanity) ที่ยังคงมีลมหายใจมาจนถึงทุกวันนี้

‘ตุ๊บตั๊บเหล่าแปะ’ ตำนานความหวานคู่ตลาดน้อยกว่า 8 ทศวรรษ

เพียงไม่กี่ก้าวจากศาลเจ้าโจวซือกง เราจะได้พบกับร้าน ตุ๊บตั๊บเหล่าแปะ ที่อยู่คู่กับตลาดน้อยมานานกว่า 80 ปี บ้านไม้หลังเก่าเปิดให้บริการตั้งแต่ พ.ศ. 2485 ท่ามกลางบรรยากาศเก่าแก่ของย่าน China Town ในฐานะศูนย์กลางชุมชนชาวจีนในช่วงเวลานั้น ตุ๊บตั๊บสะท้อนภูมิปัญญาและวิถีชีวิตของชาวจีนโพ้นทะเลที่อพยพเข้ามายังกรุงเทพฯ เมื่อหลายร้อยปีก่อน

ภาพจำของชาวชุมชนศาลเจ้าโจวซือกง  (ตลาดน้อย) คือผู้คนมากมายที่มายืนรอต่อแถวซื้อขนมตุ๊บตั๊บของเหล่าแปะในช่วงเทศกาลกินเจทุกปี ด้วยรสชาติและเนื้อสัมผัสที่มีเอกลักษณ์ บวกกับภูมิปัญญาที่ถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นมาตั้งแต่ยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยผู้ก่อตั้งซึ่งเป็นบรรพบุรุษที่อพยพมาจากเมืองจีน ถ่ายทอดวิชาทำขนมหวานเลี้ยงชีพให้กับลูกหลาน โดยคำว่า ‘เหล่าแปะ’ เป็นคำเรียกแบบจีนแต้จิ๋ว หรือหมิ่นหนาน หมายถึง ‘ลุง’ ซึ่งเป็นคำคุ้นเคยที่ชาวตลาดน้อยเรียกติดปาก อันเป็นที่มาของชื่อร้าน ‘ตุ๊บตั๊บเหล่าแปะ’

รสชาติของตุ๊บตั๊บเหล่าแปะเป็นที่เลื่องลือถึงความเหนียวของถั่วลิสงบดคลุกงาสด ให้สัมผัสละมุนเมื่อเคี้ยวแต่ไม่แห้งกระด้าง น้ำตาลเคี่ยวที่ผสมพอดีทำให้เกิดรสหวานกลมกล่อม ไม่ทิ้งรสเลี่ยนหรือหวานจนเกินไป กลิ่นถั่วคั่วหอมที่ยังคงรสชาติชัดเจน ทำให้ทุกคำที่เข้าปากรับรู้ได้ถึงจิตวิญญาณของเทศกาลกินเจ ที่ถูกย่อลงมาในขนมชิ้นเล็ก ๆ ได้อย่างลงตัว

นอกจากนี้ เสียงดังตุ๊บตั๊บยังกลายเป็น landmark acoustic ของตลาดน้อยมานานหลายปี ทั้งยังเป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นเทศกาลกินเจ ทุกวันนี้ ตุ๊บตั๊บเหล่าแปะ อยู่ภายใต้การดูแลของทายาทรุ่นที่ 3 อย่าง ประไพ งามจรัสทรัพย์ หรือ ‘นุ้ย’ อดีตนักออกแบบตกแต่งภายใน ที่ผันตัวเองมาเป็นเชฟขนมหวานที่ครีเอทพุดดิ้งโฮมเมดสูตรลับของตัวเองภายใต้แบรนด์ ‘Puurin’ และเจ้าของ Puurin Café ย่านปิ่นเกล้า

แม้จะมีความหลงใหลในขนมหวานของตะวันตก แต่เมื่อถึงเทศกาลกินเจในทุกปี ลูกหลานของเหล่าแปะจะมารวมตัวกันทำขนมตุ๊บตั๊บด้วยกระบวนการแบบดั้งเดิม มือของช่างฝีมือไม่เคยหยุดเคลื่อนไหว เสียงค้อนไม้ขนาดใหญ่กระทบถั่วลิสงคั่วเป็นจังหวะ บรรยากาศในร้านที่คงความ romanticize เปรียบดังมรดกของชุมชนมานานหลายทศวรรษ

การมายืนเข้าแถวหน้าร้านปีละครั้ง จึงไม่ได้หมายถึงการรอซื้อขนมตุ๊บตั๊บเพียงอย่างเดียว หากแต่เป็นประสบการณ์ทางประสาทสัมผัสทั้งห้า ที่เราจะได้ชมช่างฝีมือเคลื่อนไหวอย่างแม่นยำ ฟังเสียงสากไม้กระทบถั่วด้วยจังหวะคงเส้นคงวา ดมกลิ่นถั่วคั่วใหม่หอม ๆ คลุกเคล้ากับน้ำตาล พร้อมลิ้มรสเนื้อขนมตุ๊บตั๊บที่เหนียว มัน และหวานกำลังดี ยิ่งได้ลิ้มลองเนื้อขนมที่เพิ่งตีเสร็จใหม่ ๆ จะทำให้คุณเข้าใจถึงความพิถีพิถันและความอดทนของช่างฝีมือ ที่สำคัญคุ้มค่าแก่การรอคอย

ไม่ว่าคุณจะเป็นนักท่องเที่ยวหรือคนรุ่นใหม่ ที่อยากชื่นชมกรรมวิธีเก่าแก่ของชาวจีนโบราณ ภาพคนถือค้อนไม้ขนาดใหญ่ผลัดกันทุบถั่วคั่วและน้ำตาลบนโต๊ะไม้เก่า การได้ยืนฟังเสียงตุ๊บ ๆ ตั๊บ ๆ เป็นจังหวะสม่ำเสมอ และลิ้มลองขนมหวานในตำนานของย่านตลาดน้อย ตุ๊บตั๊บเหล่าแปะ จะพาคุณย้อนเวลาและเชื่อมต่อกับชุมชนที่ยังคงรักษาความพิถีพิถันเหมือนวันแรกที่เปิดร้าน


กดติดตามเราได้ที่

website       :  www.fyibangkok.com

facebook     : https://www.facebook.com/fyibangkok

instagram    : https://www.instagram.com/fyibangkok

twitter         : https://twitter.com/fyibangkok

youtube       : https://www.youtube.com/channel/UChhOQmckv2fqgkXJZ-Q1nCA

ส่งข่าวประชาสัมพันธ์ถึงกองบรรณาธิการ : pr.fyibangkok@gmail.com 
โทรศัพท์ 096 449 9516

รัสรินทร์ สุนทรกมลรัศมิ์
สมัชชา อภัยสุวรรณ
Latest posts by สมัชชา อภัยสุวรรณ (see all)