นั่งรถไฟไปเชียงใหม่
มีคนกล่าวไว้ว่า ชีวิตคือการเดินทาง จุดมุ่งหมายไม่ได้อยู่ที่ปลายทาง แต่อยู่ที่สิ่งที่เราเจอระหว่างทางต่างหาก วันนี้ก็เลยอยากจะมาเล่าประสบการณ์การเดินทางไปเชียงใหม่ โดยการนั่งรถไฟไปเชียงใหม่
ปลายทางของเราคือไปดอยหลวงเชียงดาว
คุณขึ้นรถไฟครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ สำหรับเราชีวิตวนเวียนกับการนั่งรถไฟตั้งแต่มัธยมต้น คือนั่งรถไฟไปสอบที่เชียงใหม่ ตอนเรียนมัธยมปลายก็ต้องนั่งรถไฟจากชานเมืองเข้ามาเรียนในเมืองปลายทางคือหัวลำโพง เคยนั่งรถไฟทางไกลแค่ 2 ครั้ง และครั้งนี้คือการนั่งรถไฟทางไกลในรอบ 30 ปีบวกๆ เลยทีเดียว
อะไรที่ทำให้ตัดสินใจนั่งรถไฟไปเชียงใหม่ ฮ่า คำตอบง่ายๆ คือ แก่กว่านี้คงนั่งไม่ไหวแล้ว เอาล่ะ คราวนี้นอกจากจะตัดสินใจนั่งรถไฟ เราก็ยังตั้งใจเดินทางโดยรถขนส่งสาธารณะอีกด้วย จากการหาข้อมูลพบกว่ามีขบวนหนึ่งที่น่าสนใจคือขบวน 51 ทางการรถไฟแห่งประเทศไทยใช้ชื่อว่า #JungleTrain เป็นขบวนที่ออกจากสถานีกลางบางซื่อเวลา 22.30-12.10 น. หรือเรียกอย่างเป็นทางการว่า #กรุงเทพอภิวัฒน์เชียงใหม่ เป็นตู้นอนแอร์ชั้น 2 ที่เลือกนั่งขบวนนี้เพราะว่ารถไฟจะไปเช้าที่อุตรดิตถ์ประมาณ 6 โมงเช้า แล้วเราก็ได้นั่งมอง ป่า เขา ทุ่งนา ลำธาร ผู้คนไปได้เรื่อยๆ ไปถึงช้าหน่อย แต่ก็มีความสุขระหว่างทาง และๆๆๆ รถไฟไทยไปถึงก่อนเวลา 3 นาที
เราจองตั๋วรถไฟผ่านการโทรไปที่ Call center 1690 หรือใครจะจองและชำระเงินผ่านเวบไซต์ของการรถไฟได้เลยนะคะ จองเสร็จเราไปรับตั๋วด้วยตัวเองที่หัวลำโพงเพราะใกล้บ้าน หลังจากนั้นก็รอวันเดินทาง (ค่าตั๋วประมาณคนละ 700 กว่าบาท เตียงล่างแพงกว่าเตียงบน)
.
สำหรับใครที่ไม่อยากเสียเวลาเหมือนเราจะจองตู้นอนชั้น 1 ไปก็ได้ สะดวกสบายและเป็นส่วนตัว แต่จะเต็มเร็วมาก ต้องจองล่วงหน้าพอสมควร ค่ารถไฟประมาณคนละพันกว่าบาทนิดๆ แต่ขบวนนี้จะไม่เห็นวิวระหว่างทาง คือรถออก 18.30 -07.10 ไปเช้าที่เชียงใหม่เลย
ที่สถานีกรุงเทพอภิวัฒน์ หรือสถานีกลางบางซื่อ
วันเดินทางก็ไปถึงสถานีกลางบางซื่อหรือสถานีกรุงเทพอภิวัฒน์ ก่อนเวลาเล็กน้อย เจ้าหน้าที่จะเรียกขึ้นรถก่อนเวลา 20 นาที ขบวนเรามีตู้นอน 2 โบกี้ ขึ้นไปก็จะเป็นเตียงพร้อมนอนแล้ว มีม่านสีเขียวกั้น แล้วก็มีจุดให้ชาร์ทอุปกรณ์ต่างๆ ซื้อขนมไปตุน เพราะบางขบวนก็มีตู้เสบียงและบางขบวนก็ไม่มี สิ่งที่คนถามเยอะๆ คือห้องน้ำเป็นอย่างไรบ้าง ก็เข้าได้นะ แต่ก็หวั่นไหวนิดหน่อย ห้องน้ำมี 2 แบบคือแบบชักโครกกับแบบนั่งยองๆ และเป็นห้องน้ำรวม แต่เราไม่ได้ผจญภัยแบบนี้บ่อยๆ คิดซะว่านานๆ ทีที่ได้เข้าห้องน้ำแบบนี้ก็ทำให้หัวใจ เต้นแรงดีเหมือนกัน
บรรยากาศภายในตู้นอนเตียงล่างจะสบายกว่าเตียงบนและมีหน้าต่าง
เรานอนหลับสนิท เพราะก่อนไปงานเยอะมากและต้องอดหลับอดนอนเคลียร์งานให้เรียบร้อยเลยค่อนข้างเพลีย ตื่นมาก็เกือบๆ ตีห้า เพราะมีผู้โดยสารทยอยลงระหว่างทาง หกโมงเช้าเลยมารอให้เจ้าหน้าที่พับเตียงให้ ใครจะไม่พับก็ได้นะ คือจะนอนแบบนั้นเลยก็ได้
วิวสองข้างทางก็มีตั้งแต่ตลาดสด ลำธาร นาข้าว ป่าเขา สถานีรถไฟ รวมถึงแม่ค้าที่ขึ้นมาขายอาหารก็ได้ข้าวเหนียวหมูปิ้งกับไส้อั่วเป็นมื้อเช้า การได้มองออกนอกหน้าต่างไปไกลๆ ไม่ต้องกังวลเรื่องงาน ก็ทำให้มีความสุขเบาๆ
อ่ะ อย่างที่บอกรถไฟไทยมาถึงก่อนเวลา พอลงมาที่ชานชาลาเลยต้องขอถ่ายรูปเป็นที่ระลึกเสียหน่อย จุดหมายของเราอยู่ที่เชียงดาว พอออกมาจากสถานีก็ขึ้นรถแดงไปขนส่งช้างเผือก ได้รถเมล์ปรับอากาศไปเชียงดาวเวลา 13.30 น.ค่ารถคนละ 64 บาท ใช้เวลาประมาณ 1.30 ชั่วโมง หลังจากนั้นรถจากทางรีสอร์ทก็มารับ
การเดินทางครั้งนี้ เราตั้งใจไม่เช่ารถขับ ลองใช้ชีวิตแบบไม่มีรถทำตัวเบาๆ เอาเป้ไปใบเดียว (แต่ก็มีชุดกินข้าวเช้า ชุดไปเดินเล่นนะ ) ขากลับที่รีสอร์ทเรียกรถสองแถวมารับไปส่งที่ขนส่ง นั่งรถเมล์ธรรมดาไม่มีแอร์ คนละ 44 บาท มาส่งในเมือง แล้วก็เรียก Grab ไปส่งที่สนามบินเชียงใหม่
การเดินทางคือการผจญภัย การเดินทางทำให้ได้ชาร์ทพลัง ลองหาเวลาไปเที่ยวกันนะคะ เดี๋ยวเอาไว้มาเขียนเรื่องเชียงดาวเผื่อใครกำลังวางแผนไปเที่ยว เที่ยวเมืองไทยไม่ไปไม่รู้นะเออ
กดติดตามเราได้ที่
website : www.fyibangkok.com
facebook :
instagram :
twitter :
youtube :
ส่งข่าวประชาสัมพันธ์ถึงกองบรรณาธิการ : pr.fyibangkok@gmail.com
โทรศัพท์ 096 449 9516
- POPIA, a group exhibition with Pokchat Worasub, Hadrien Gerenton and COFIThe show includes photography, painting, installation, drawing and sculpture. - December 8, 2023
- ร่วมดื่มด่ำและตื่นตาตื่นใจกับ เทศกาลไฟและศิลปะดิจิทัล Awakening Bangkok ประจำปี 2023 - November 29, 2023
- ตามรอยยิ้ม - November 27, 2023
สมัชชา เกิดมาในยุคภาพถ่ายขาวดำและกล้องฟิล์มผ่านการร่ำเรียนด้านการถ่ายภาพจาก.
คณะศิลปกรรมศาสตร์ สาขาทัศนศิลป์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เคยร่วมงานถ่ายภาพกับเอเจนซี่ชื่อดังก่อนจะไปใช้ชีวิตที่ลอส แอนเจลิส สหรัฐอเมริกา
สมัชชา เป็นช่างภาพมืออาชีพที่ได้รับการยอมรับว่าสามารถสร้างความมหัศจรรย์และมนต์เสน่ห์ให้แก่ภาพถ่ายทุกภาพได้อย่างน่าทึ่ง ทั้งในด้านการจัดวางองค์ประกอบ การให้แสง ตลอดจนการทำ Post Production เขามีปรัชญาการทำงานว่า “สร้างความแปลกใหม่ให้กับงานธรรมดาๆ แต่ต้องสามารถใช้งานได้จริง”
สมัชชา ยังคงถ่ายภาพอย่างต่อเนื่อง ใช้ชีวิตอันแสนจะวุ่นวายกับภรรยาและแมวอีก 40 ตัว